เปิดโผหุ้น “บลูชิพ” สุดสตรอง! ชู 4 เดือนโชว์รีเทิร์นชนะตลาด
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET50 ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59 - 28 เม.ย.60 ซึ่งพบว่ามีหุ้นน่าสนใจหลายตัวที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาดฯ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET50 ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59 – 28 เม.ย.60 ซึ่งพบว่าหุ้นส่วนใหญ่ราคาปรับตัวขึ้นมากกว่าลง โดยหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมีทั้งหมด 27 ตัว และมีหุ้นปรับตัวลดลง 21 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่มีหุ้นน่าสนใจหลายตัวที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาดฯ
สำหรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 1.52% โดยเทียบจากดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,542.94 จุด (30 ธ.ค. 59) มาอยู่ที่ 1,566.32 จุด ( 28 เม.ย.60) หรือบวกไป 23.38 จุด ส่วนดัชนี SET50 มาอยู่ที่ 993.98 จุด ( 28 เม.ย.60) บวกไป 29.14 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.02% จากดัชนีที่ระดับ 964.84 จุด (30 ธ.ค. 59)
โดยหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27 ตัว ประกอบด้วย ADVANC, PTTGC, IRPC, KKP, DELTA, BBL, KTB, EGCO, DTAC, IVL, TMB, SCC, TOP, INTUCH, TCAP, SPRC, WHA, CPN, LH, PTT, KBANK, MINT, GLOW, SCB, TU, AOT และ PTTEP และหากสังเกตหุ้นส่วนใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นจะให้ผลตอบแทนชนะตลาดฯเป็นหลัก
ด้านหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงมีทั้งหมด 21 ตัว อาทิ BTS, ROBINS, CPALL, BH, BEM, BCP, TPIPL, HMPRO, GPSC, TRUE, BLA, CPF ,GLOBAL, BA, CK, BDMS, CENTEL, KCE, CBG, THAI และ PTG
อย่างงไรก็ตามหุ้นที่ปรับตัวลงถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้เก็บหุ้นพื้นฐานแกร่งราคาถูก ที่สำคัญหุ้นยังมีกำไรสดใส ตรงนี้ก็น่าจะเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้เข้าลงทุน ประกอบกับช่วงนี้กระแส Fund Flow มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคมากขึ้น หลังผลเลือกตั้งฝรั่งเศสตามคาดการเก็บหุ้นที่ร่วงแรงก็น่าจะเป็นโอกาสทองของนักลงทุน
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ความกังวลฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรปผ่อนคลายลง หลังการเลือกตั้งฝรั่งเศสเป็นไปตามคาด และหนุน Fund Flow มีโอกาสไหลกลับเข้ามาในตลาดทุนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียสังเกตได้จากผลตอบแทนตั้งแต่การเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก ณ วันที่ 23 เม.ย. 60 จนถึงปัจจุบันตลาดหุ้นเอเชียยัง Laggard กว่าตลาดหุ้นอื่นๆมาก อาทิ ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 7.4%, เยอรมนี 5.6%, ดาวโจนส์ 2.2%
ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียอย่าง อินโดนีเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% และไทยที่ติดลบเล็กน้อยราว 0.06% แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่องรวมถึงดัชนีหุ้นไทยยัง Laggard กว่าเพื่อนบ้าน คาด Fund Flow มีโอกาสไหลเข้ามามากขึ้น
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน