TTA พร้อมเทิร์นอะราวด์ปีนี้! ลุ้นกำไร Q2 โตต่อเนื่อง รับไฮซีซั่น
TTA พร้อมเทิร์นอะราวด์ปีนี้! ลุ้นกำไร Q2/60 โตต่อเนื่อง รับธุรกิจไฮซีซั่น-ค่าระวางฟื้นตัว-รับรู้รายได้ธุรกิจอาหาร โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" อัพไซต์สูงลิ่ว
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA โดยมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 จะเติบโตอย่างโดดเด่นจากไตรมาส 1/60 ตามค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้น และจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหาร “พิซซ่า ฮัท” อีกทั้งธุรกิจจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 2 และไตรมาส 3/60 จึงทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 2/60 เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังคาดว่าในปี 60 มีโอกาสเทิร์นอะราวด์ จากค่าระวางเรือปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินในปีนี้อาจขาดทุนลดลง เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวดีขึ้นและมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมเข้าซื้อกิจการอาหารเพิ่มเติมเพื่อหนุนผลประกอบการต่อเนื่อง
ทั้งนี้ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 พลิกมีกำไร 87.22 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 230.68 ล้านบาท หลังดัชนีค่าระวางเรือ หรือ BDI ปรับเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการบริการจากธุรกิจนอกชายฝั่งลดลง
ด้านราคาหุ้นวานนี้ (22 พ.ค.) ปิดที่ 8.85 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้านมูลค่าซื้อขาย 19.39 ล้านบาท โดยราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 10.70 บาท อยู่ 21.59%
โดยนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1/60 จากการฟื้นตัวของธุรกิจเดินเรือที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา หลังจากดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ในไตรมาส 1/60 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กว่า 700 จุด ซึ่งทำให้อัตราค่าระวางเรือเพิ่มขึ้น
อีกทั้งแนวโน้มของ บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จํากัด (มหาชน) หรือ MML ซึ่งเป็นบริษัทย่อยยังคาดว่าจะมีมีอัตราการเช่าเรือที่อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา และธุรกิจธุรกิจบริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังภัยแล้งในประเทศเวียดนามจะลดลง ทำให้ความต้องการใช้ปุ๋ยเพิ่มขึ้น และบริษัทได้ขยายตลาดไปต่างประเทศมากขึ้นทั้งแอฟริกาและฟิลิปปินส์ ส่วนบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS ก็คาดว่ารายได้จะสูงขึ้น จากปริมาณการขายถ่านหินและราคาขายที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 2/60 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหารที่บริษัท พีเอช แคปปิตอล จำกัด หรือ PHC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้น 70% เข้าทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ในกิจการพิซซ่า ฮัทในประเทศไทยสามารถเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/60 ซึ่งบริษัทเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 100 สาขา ภายใน 4-5 ปี จากปัจจุบันมีอยู่ 92 สาขา
ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานในปี 60 มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร จากปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ 418.29 ล้านบาท จากการที่ค่าระวางเรือปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ผู้บริการหลายรายประสบปัญหาขาดทุน ทำให้มีการเลิกกิจการและออกจากตลาดไป ซึ่งส่งผลให้ดีมานด์และซัพพลายเข้าสู่ภาวะสมดุล และธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหินในปีนี้อาจจะแนวโน้มขาดทุนลดลง เนื่องจากราคาถ่านหินปรับตัวดีขึ้นและมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังมองการเข้าซื้อกิจการอาหารเพิ่มเติม เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจแลขสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ทันที โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดด้วยเงินสดมากถึง 1 หมื่นล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับต่ำที่ 0.06 เท่า ซึ่งมีความสามารถในการกู้ยืมค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง เพื่อโอกาสการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” TTA ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท/หุ้น โดยไตรมาส 1/60 มีกำไร 87 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 231 ล้านบาท จากการเดินเรือที่ฟื้นตัวขึ้นมาก รายได้รวม เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน ที่ 3,103 ล้านบาท สาเหตุหลักใหญ่มาจากการเดินเรือที่รายได้ เพิ่มขึ้น 38.2% จากค่าระวางที่เพิ่มขึ้น 87.2% เป็น 7,015ดอลลาร์/วัน/ลำ
ขณะที่ช่วงที่เหลือการเดินเรือยังจะเป็นตัวหนุนสำคัญ จากภาวะอุตสาหกรรมเข้าสู่สมดุลดีขึ้น ทำให้คาดว่าค่าระวางเรือฟื้นตัว, MML ซึ่งทำธุรกิจขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง ในประเทศมาเลเซีย จะเข้าช่วง highseason ในไตรมาส 2 และไตรมาส 3/60 จะทำให้รายได้ฟื้นตัวจากไตรมาส 1/60 ทั้งนี้ PMTA ในไตรมาส 2/60 เป็นช่วง high season ส่งผลให้ปริมาณขายดีขึ้น จะหนุนให้กำไรฟื้นตัว ขณะที่ UMS จะถูกกดดันจากราคาถ่านหินที่กลับมาอ่อนตัวเทียบจากไตรมาสก่อน