ILINK กำไรปีนี้แจ่ม! กอดแบ็คล็อค 1.5 พันลบ.ลุยประมูลงานต่อเนื่อง
ILINK กำไรปีนี้โตแจ่ม! กอดแบ็คล็อคแน่น 1.5 พันลบ. ลุยประมูลงานต่อเนื่อง ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ให้เป้าสูง-อัพไซด์ยังเหลือเพียบ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK โดยนักวิเคราะห์มองว่า ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการรับรู้รายได้งานวิศวกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมี Backlog ราว 1.5 พันล้านบาท และทยอยรับรู้ฯในปีนี้จำนวน 50% จึงเชื่อว่าจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่คาดว่าในปีนี้ ILINK จะมีกำไรเติบโตอย่างสดใส โดยเชื่อว่าธุรกิจขายสายสัญญาณในไตรมาส 2-3/60 จะมียอดสั่งซื้อเข้ามามากเป็นพิเศษจากแผนการจัดโปรโมชั่น ทั้งนี้หากบริษัทได้รับงานระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ของสนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้ราคาเป้าหมายของ ILINK ปรับเพิ่มขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (1 มิ.ย.) อยู่ที่ 15.80 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ด้านมูลค่าซื้อขาย 46.62 ล้านบาท โดยราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 18 บาท อยู่ 13.92%
โดยนายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการ ILINK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตราว 15-20% มาที่กว่า 3,500 ล้านบาท จากระดับ 2,972 ล้านบาทในปีก่อน จากการเติบโตของทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจจำหน่ายสายสัญญาณปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,200 ล้านบาท ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 700-800 ล้านบาท และโทรคมนาคม จะอยู่ที่ 800-900 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 1,479 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 3 ปี (ปี 60-62) โดยในปีนี้คาดจะรับรู้รายได้มากกว่า 50% ส่วนปี 61 จะรับรู้รายได้ราว 30-40% และที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปีสุดท้าย นอกจากนี้บริษัทก็อยู่ระหว่างเข้าประมูลงานเพิ่มเติมอีก แบ่งเป็น งานวางสายเคเบิลใต้น้ำ (Submarine cable) มูลค่า 2,100 ล้านบาท คาดจะรู้ผลในครึ่งปีหลังนี้ และอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานสถานีไฟฟ้าย่อย มูลค่า 500-600 ล้านบาท คาดจะรู้ผลในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 ปีนี้
รวมถึงเตรียมเข้าประมูลงานร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ ในโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน ที่พระราม 3 และอโศก-รัชดา มูลค่ารวม 7,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือนส.ค.และพ.ย.60 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรหลายราย ทั้ง บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศจีน ,สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น คาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนก.ค.นี้
อีกทั้งอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่าราว 1,500 ล้านบาท คาดว่าจะประกาศและรู้ผลได้ในเดือนมิ.ย.นี้
นายณัฐนัย กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 คาดรายได้น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/60 ที่อยู่ที่ 789 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิน่าจะเติบโตได้มากกว่าไตรมาสแรก ที่อยู่ที่ 12.19 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากในไตรมาส 1/60 มีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับภาษีนำเข้าจากกรมศุลกากรเข้ามา 35.43 ล้านบาท แต่ในไตรมาส 2 ไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าวแล้ว และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็น่าจะทำให้กำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะ “ซื้อ” ILINK ด้วยราคาเป้าหมาย 18 บาท/หุ้น โดยปรับคาดการณ์กำไรปี 60 ของ ILINK ลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 260.3 ล้านบาท เติบโต 17.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (เดิมคาด 274 ล้านบาท) และคาดรายได้รวมอยู่ที่ 3,806.6 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 29.4% เพื่อสะท้อนผลดำเนินงานไตรมาส 1/60 ต่ำกว่าคาด แต่เชื่อว่าจะสามารถฟื้นตัวได้ดีในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ ธุรกิจขายสายสัญญาณคาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนได้ 6.2% โดยเชื่อว่าไตรมาส 2-3 จะมียอดสั่งซื้อเข้ามามากเป็นพิเศษจากแผนการจัดโปรโมชั่น ขณะที่ธุรกิจวิศวกรรมโครงการคาดว่าจะเติบโตจากปีก่อนถึง 371.4% มาอยู่ที่ 800 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 59 ที่มีอยู่ 1,511 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ปีนี้ 50-60%
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” ILINK ด้วยราคาเป้าหมาย 17.30 บาท/หุ้น โดยมองผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทมีงานในมือ (Backlog) 1.5 พันล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นช่วงการรับรู้รายได้งานขนาดใหญ่ ได้แก่งาน สุวรรณภูมิ C3 ที่มีมูลค่ารอรับรู้อยู่เกือบ 800 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดหนุนให้กำไรช่วงครึ่งปีหลังเติบโตจากช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 คาดว่าจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/60 ที่มีฐานต่ำ อย่างไรก็ดีผลประกอบการโดยรวมอาจยังไม่โดดเด่นนัก เพราะธุรกิจจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในรายได้หลักอยู่ในโลซีซั่น ขณะที่ผลประกอบการของ ITEL จะเป็นปัจจัยช่วยหนุนกำไร เพราะคาดกำไรไตรมาส 2/60 ของ ITEL จะเติบโตขึ้นจากไตรมาส 1/60 จากอัตรากำไรที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น และรายได้ธุรกิจ Data service ที่เติบโตสูงตามการให้บริการกับลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะ “ซื้อ” ILINK ด้วยราคาเป้าหมาย 16.60 บาท/หุ้น โดยมองว่าหากบริษัทได้รับงานระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีส่วนงานที่เป็นของบริษัทราว 50% หรือราว 1.5 พันล้านบาท จากมูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาท ราคาเป้าหมายจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 2-3 บาท/หุ้น ภายใต้สมมุติฐาน แบ่งรับรู้รายได้ 2-3 ปี และอัตรากำไรสุทธิจากงานราว 7-9% และ P/E ที่ 20 เท่า
ทั้งนี้งาน APM มีผู้เข้าชิง 2 รายคือ ILINK เสนอราคา 3.07 พันล้านบาท ขณะที่ ITD เสนอราคา 3.4 พันล้านบาท โดยสูงกว่าราคากลางที่อยู่ในระดับ 2.89 พันล้านบาท จึงจะมีการเจรจาต่อรองกันต่อไป ขณะที่ ITD ปฏิเสธที่จะลดราคาลงมา โอกาสจึงกลับมาเป็นของ ILINK และมีข่าวในเชิงบวกว่าบริษัทมีแนวโน้มจะยอมปรับลดราคาลงมาบ้าง