UNIQ ปีทอง! จ่อซิวงานรถไฟไทย-จีน หลังนายกฯงัดม.44 หนุน

UNIQ ปีทอง! จ่อซิวงานโครงการรถไฟไทย-จีน หลังนายกฯงัดม.44 แก้ไขปัญหาความล่าช้า ฟากโบรกฯ แนะ "ซื้อ" มองกำไรปีนี้โตแกร่ง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ หลังจากวานนี้ (13 มิ.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติพิจารณาเกี่ยวกับการออกประกาศคำสั่งตามมาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาความล่าช้าโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน 

โดยภายหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยว่า คาดว่าน่าจะออกประกาศได้ในสัปดาห์หน้าหลังจากที่ได้มีการหารือกันเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ การที่ครม.มีมติเห็นชอบในเรื่องดังกล่าว ทำให้เห็นถึงความคืบหน้าของโครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน จึงมองว่าจะส่งผลดีต่อ UNIQ เนื่องจากก่อนหน้านี้ UNIQ มีการจับมือกับพันธมิตรจากจีนอยู่แล้ว โดยใช้ชื่อว่า กิจการร่วมค้า UN-SH-CH ซึ่งประกอบด้วยกลุ่ม UNIQ , SINOHYDRO CORPORATION LIMITED , CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED โดยเป็นผู้รับจ้างสัญญาจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า UNIQ มีโอกาสจะได้รับงานโครงการดังกล่าวมากกว่าบริษัทอื่น

ขณะที่ UNIQ มีความชำนาญในการก่อสร้างงานโยธาเป็นอย่างมาก โดยเป็นผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor) ทั้งงานแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Design Services) ซึ่งให้บริการครบวงจรทั้งงานออกแบบและงานก่อสร้าง และงานรับก่อสร้างตามแบบที่ผู้ว่าจ้างกำหนด

อนึ่ง เส้นทางโครงการรถไฟไทย-จีน แบ่งเป็น 4 ช่วง คือ 1.ช่วงกรุงเทพฯ (บางซื่อ)- แก่งคอย ระยะทาง 118.142 กิโลเมตร 2.ช่วงแก่งคอย – นครราชสีมา ระยะทาง 134.213 กิโลเมตร 3. ช่วงแก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 238.829 กิโลเมตร 4.ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 354.090 กิโลเมตร รวมระยะทาง 845.274 กิโลเมตร

ขณะที่ราคาหุ้น UNIQ ปรับตัวขึ้นตอบรับประเด็นดังกล่าว โดยปิดตลาดวานนี้ (13 มิ.ย.) อยู่ที่ 18.20 บาท บวก 0.60 บาท บวก 3.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 556.98 ล้านบาท อีกทั้งค่า P/E อยู่ที่ระดับ 20.18 เท่า ณ วันที่ 12 มิ.ย.60 ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้างซึ่งอยู่ที่ 27.03 เท่า 

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” UNIQ ราคาเป้าหมาย 22 บาท โดยคาดว่าการประชุมครม.วานนี้ (13 มิ.ย.) จะมีการพิจาณาแผนลงทุนโครงการรถไฟไทย-จีน และคาดว่าจะมีการอนุมัติแผนลงทุนโครงการรถไฟอีก 2 เส้นทาง คือสายสีส้ม และสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ภายในเดือน มิ.ย. โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแม้ว่ากลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง YTD ลดลง 7.9% เทียบกับ SET INDEX เพิ่มขึ้น 1.4% ขณะที่ UNIQ ลดลง 11.1%

ทั้งนี้ UNIQ ปัจจุบันมีงานในมือ 3 หมื่นล้านบาท และมีความสามารถในการทำกำไรมากกว่า 15% ซึ่งสูงกว่ากลุ่ม ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต 13% จากปีก่อน เป็น 996 ล้านบาท และ Valuation ยังต่ำกว่าหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดย UNIQ ซื้อขายที่ PER2560 ระดับ 19.4 เท่า ต่ำกว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ที่ 33 เท่า และ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ที่ 28.4 เท่า

อย่างไรก็ตาม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย ยังเตรียมนำโครงการอื่นๆเข้าเสนอครม.ภายในปีนี้อีกด้วย รวมถึงรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม , รถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ที่เตรียมนำเสนอครม.ในเดือนมิ.ย นี้

ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก และ โครงการรถไฟความเร็วสูง(กรุงเทพเชียงใหม่) ที่ประเทศญี่ปุ่นให้ความสนใจ คาดเห็นความคืบหน้าของการประมูลในช่วงครึ่งหลังในปีนี้

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงมีความเห็นเป็นบวกต่อการเร่งผลักดันของภาครัฐในการเร่งงานประมูลจะเห็นภาพที่ชัดเจนในระยะสั้น 2-3 เดือนข้างหน้ามาจากรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง รวมถึงรถไฟฟ้า 6 เส้นทาง สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน) สายสีม่วงต่อขยาย (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) เตรียมนำเสนอในเดือนมิ.ย

ส่วนสายสีน้ำเงินต่อขยาย บางแค-พุทธมนฑลสาย 4, สายสีเขียวต่อขยายเหนือ-ใต้  2 เส้นทาง คูคต-ลำลูกกา และสมุทรปราการ-บางปู รวมถึง โครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์จากสนามบินสุวรรณภูมิไปสนามบินดอนเมือง จะนำเสนอต่อครม.เพื่อพิจารณาเป็นลำดับถัดไป คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในไตรมาส 3/60

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวภายหลังการประชุมครม.วานนี้ (13 มิ.ย.) เกี่ยวกับการออกประกาศคำสั่งตามมาตรา 44 ในการแก้ปัญหากรณีการใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ในการผลิตปิโตรเลียม โดยคาดว่าน่าจะออกประกาศได้ในสัปดาห์หน้าเช่นกัน

Back to top button