GUNKUL มั่นใจยอดขายปีนี้โตสนั่น เร่งเครื่องขยายกำลังผลิตเต็มสูบ
GUNKUL มั่นใจยอดขายปีนี้โตสนั่นแตะ 4 พันลบ. เตรียมคว้างานเพิ่ม Q3/60 รับไฮซีซั่น ลุยเดินหน้าประมูลงานเร่งเครื่องขยายกำลังผลิตเต็มสูบ
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในช่วงไตรมาส 2/60 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/60 ที่ประมาณ 880 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้คาดว่าน่าจะมียอดขายราว 4 พันล้านบาท โดยงานส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงไตรมาส 3/60 ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของบริษัท ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ราว 1 พันล้านบาท และบริษัทยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานมูลค่าราว 1-2 พันล้านบาท คาดจะทราบผลได้ในช่วงไตรมาส 3/60
นอกจากนี้บริษัทคาดว่าโรงไฟฟ้ากังหันลมห้วยบง เฟส 2 กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ จะสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในช่วงปลาย 60 ถึงต้นปี 61 และยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลม เฟส 3 ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดจะขายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 2/61 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดกำลังการผลิตเป็น 170 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมแล้ว 60 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้ง 3 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่พัฒนาโครงการโดยใช้ที่ดินในพื้นที่โฉนดและพื้นที่เช่า น.ส.3 ก เป็นส่วนใหญ่ จึงไม่มีปัญหาในกรณีพื้นที่ถูกประกาศให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินและอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับหน่วยราชการและสหกรณ์ ขนาดกำลังการผลิต 219 เมกะวัตต์ โดยบ่งเป็นในส่วนราชการ ขนาดกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ และส่วนสหกรณ์การเกษตร ขนาดกำลังการผลิต 119 เมกะวัตต์
โดยแต่ละโครงการจะมีกำลังการผลิตไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อโครงการ ซึ่งGUNKUL เป็น 1 ใน 21 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ยังต้องวัดกันที่เรื่องสายส่งด้วย อีกทั้งต้องรอการจับสลากในช่วงปลายเดือน มิ.ย.60 และคาดว่าจะรู้ผลได้ในเดือนก.ค.60
ด้านโครงการพลังงานทดแทนแบบผสมผสาน (Hybrid) บริษัทสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการ SPP Hybrid Firm ขนาดกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ โดยบริษัทคาดว่าภาครัฐจะเปิดในช่วงไตรมาส 4/60 และน่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี 61 ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทได้ทำการวิจัยพืช 4-5 ชนิด เช่น ยูคาลิปตัส สน กระถินยักษ์ เป็นต้น โดยจากการวิจัยพบว่า ยูคาลิปตัส เป็นพืชที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับโครงการไบโอแมส
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันติดขัดในเรื่องของสายส่งจากก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ามีโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นอีก 2 โครงการ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาโครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวมประมาณ 70 เมกะวัตต์ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีอย่างน้อย 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตกว่า 30 เมกะวัตต์ ที่จะ COD ได้ในช่วงปลายปี 61
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ GUNKUL ให้ราคาเป้าหมาย 5.50 บาทต่อหุ้น โดยช่วงที่เหลือของปี 60 GUNKUL จะรับรู้รายได้บนกำลังการผลิต 172 เมกะวัตต์ และในไตรมาส 4/60 โครงการลม GNP ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ จะสามารถเริ่มจ่ายไฟได้ สนับสนุนกำไรสุทธิปี 60 คาดเติบโต 106% และขยายตัวต่อเนื่องในปี 61
นอกจากนี้ GUNKUL อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อลงทุนเพิ่มเติมทั้งในญี่ปุ่น 550 เมกะวัตต์ เวียดนาม 280 เมกะวัตต์ มาเลเซีย 160 เมกะวัตต์ เป็นประเทศเป้าหมายที่อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนมีขนาดใหญ่และกำลังเติบโตได้น่าสนใจ