โอกาสทอง TCAP จ่อเสิร์ฟกำไร Q2 สุดแจ่ม! แถม P/E-P/BV ต่ำ

โอกาสทอง TCAP จ่อเสิร์ฟกำไร Q2/60 สุดแจ่ม! แถม P/E-P/BV ต่ำ ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ให้เป้าสูง-อัพไซด์ยังเหลือ


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP หลังเริ่มเข้าสู่เทศกาลประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/60 ของกลุ่มสถาบันการเงิน โดยนักวิเคราะห์มองว่า รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยของบริษัทเติบโตดีขึ้น อีกทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขยายตัวดีต่อเนื่อง และกระแสการลงทุนของภาครัฐที่ชัดเจนขึ้น จึงส่งผลให้กำไรของ TCAP ในไตรมาส 2/60 เติบโตได้อย่างสดใส

นอกจากนี้ ครึ่งหลังของปีนี้บริษัทยังได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดี จึงทำให้รายได้ดอกเบี้ยเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คุณภาพหนี้ของสินเชื่อรถยนต์ยังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ผลประกอบการในปีนี้เติบโตอย่างโดดเด่น

ขณะที่ค่า P/E อยู่ที่ระดับ 8.56 เท่า ณ วันที่ 3 ก.ค.60 ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มธนาคารซึ่งอยู่ที่ 10.90 เท่า นอกจากนี้ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (3.ก.ค.) อยู่ที่ 46.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.09% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.71 ล้านบาท 

โดยราคาหุ้นดังกล่าวยังต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชี โดย ณ วันที่ 3 ก.ค.60 อยู่ที่ 50.31 บาท ขณะที่ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 55 บาท อยู่ 18.28%

 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” TCAP ราคาเป้าหมาย 55 บาท/หุ้น โดยคาดกำไรไตรมาส 2/60 ที่ 1,699 ล้านบาท เติบโต 6% จากไตรมาสก่อน และ 16% จากปีก่อน โดยคาดทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญอาจเพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบปกติตามฤดูกาล ซึ่งยังไม่ใช่ปัจจัยที่น่ากังวล

ขณะที่คาดว่าสินเชื่อในไตรมาสนี้จะเติบโตได้ราว 1.5% จากไตรมาสก่อน จากการที่ธนาคารเร่งรุกตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และเริ่มปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองมากขึ้น ขณะที่ NIM คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้ราว 5 bps จาก Yield ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ทำให้ภาพรวมรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโตขึ้นราว 3% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้คาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจะลดลงราว 9% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากค่าธรรมเนียมธุรกิจ Brokerage ได้รับผลกระทบจากภาวะการซื้อขายในตลาดฯที่ซบเซา แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอื่นๆ อาทิ กำไรจากการขายเงินลงทุน และปันผลรับ อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโดยรวมเพิ่มขึ้นได้ราว 5% จากไตรมาสก่อน

ขณะเดียวกัน คาดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับรายได้รวมที่ดีขึ้น จึงส่งผลให้ Cost-to-income ratio ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราว 53%

นอกจากนี้ แนวโน้มคุณภาพหนี้ในไตรมาสนี้อาจแย่ลงบ้าง แต่เป็นผลระยะสั้นจากช่วงหยุดยาว และช่วงเปิดเทอม ซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาล ทำให้คาดว่า Credit Cost ในไตรมาสนี้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 62 bps

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 60 ไว้ที่ 6,667 ล้านบาท โดยหากกำไรไตรมาส 2/60 ออกมาใกล้เคียงคาดจะส่งผลให้กำไรครึ่งปีคิดเป็นราว 49.5% ของประมาณการทั้งปี สำหรับในครึ่งปีหลังฝ่ายวิจัยคาดว่าแรงหนุนจากสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดีจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คุณภาพหนี้ของสินเชื่อรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายวิจัยไม่มีความกังวลว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะเป็นปัจจัยกดดันในปีนี้

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” TCAP ด้วยราคาเป้าหมาย 53 บาท/หุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 จะเติบโตได้โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน และ 14% จากปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard กับกลุ่มและถือว่า “ถูก” เพราะเทรดต่ำกว่า 1xPBV

Back to top button