ดูที่นี่! โผ 19 บจ.ตัวท็อปโชว์รีเทิร์นชนะตลาดฯ
ดูที่นี่! โผ 19 บจ.ตัวท็อป 6 เดือนแรกราคาพุ่งกระฉูดเกิน 50% โชว์รีเทิร์นชนะตลาดฯ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59-30 มิ.ย.60 ซึ่งใช้เกณฑ์การคัดเลือกราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเกิน 50% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้จะเห็นว่าบจ.ดังกล่าวให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนมากกว่าตลาด โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 2.06% โดยเทียบจากดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,542.94 จุด (30 ธ.ค. 59) มาอยู่ที่ 1,574.74 จุด ( 30 มิ.ย.60) หรือบวกไป 31.80 จุด
สำหรับหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19 บจ. ประกอบด้วย ASIAN ,ECL ,TCCC ,AMANAH ,ORI ,PK ,SYNEX ,RS ,AH ,GIFT ,AOT ,CPL ,RCI ,COL ,IHL , MATI ,RCL ,GREEN และ TKS
สำหรับบจ.5 อันดับแรกที่ราคาปรับตัวขึ้นเกิน 50% มีดังนี้
อันดับ 1 บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ราคาหุ้นในรอบ 6 เดือนเพิ่มขึ้น 206.67% มาอยู่ที่ระดับ 13.80 บาท (30 มิ.ย.) บวกไป 9.30 บาท จากระดับ 4.50 บาท (30 ธ.ค.59)
ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 2/60 จะออกมาดี หลังจากไตรมาสที่ 1/60 เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำเก็งกำไร ASIAN คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะออกมาดี
อันดับที่ 2 บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ราคาหุ้นในรอบ 6 เดือนเพิ่มขึ้น 124.69% มาอยู่ที่ระดับ 3.64 บาท (30 มิ.ย.) บวกไป 2.02 บาท จากระดับ 1.62 บาท (30 ธ.ค.59)
โดย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ “เก็งกำไร” หุ้น ECL ให้ราคาเป้าพื้นฐาน 3.64 บาท ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 จะเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากฐานลูกค้าสินเชื่อรถมือสองและบิ๊กไบค์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะ Turnaround จากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/59 โดยประเมินแนวโน้มกำไรจะโตในรูปแบบ Snowball effect แบบไตรมาสต่อไตรมาส)
ด้านหนี้สินต่อทุน (D/E) ณ สิ้นไตรมาส 1/60 ยังต่ำเพียง 1.6 เท่า เทียบกับอุตสาหกรรมฯที่สูงราว 4-5 เท่า ประเมินยังมีโอกาสในการขยายสินเชื่อเชิงรุกได้อีก ทำให้คาดแนวโน้มกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS) จะเติบโตได้ตามที่ประมาณการฯได้ คือ 22.5% เฉลี่ยในช่วงปี 60-63
อันดับที่ 3 บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) หรือ TCCC ราคาหุ้นในรอบ 6 เดือนเพิ่มขึ้น 102.90% มาอยู่ที่ระดับ 70 บาท (30 มิ.ย.) บวกไป 35.35 บาท จากระดับ 34.50 บาท (30 ธ.ค.59)
ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ผลประกอบการไตรมาส 1/60 เติบโตอย่างโดดเด่น มาที่ 318.73 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนมีกำไร 108.80 ล้านบาท
อันดับที่ 4 บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH ราคาหุ้นในรอบ 6 เดือนเพิ่มขึ้น 91.11% มาอยู่ที่ระดับ 1.72 บาท (30 มิ.ย.) บวกไป 0.82 บาท จากระดับ 0.90 บาท (30 ธ.ค.59)
ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ผลประกอบการไตรมาส 1/60 เติบโตอย่างโดดเด่น มาที่ 17.24 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนมีกำไร 3.15 ล้านบาท
อันดับที่ 5 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ราคาหุ้นในรอบ 6 เดือนเพิ่มขึ้น 72.50% มาอยู่ที่ระดับ 13.80 บาท (30 มิ.ย.) บวกไป 5.80 บาท จากระดับ 8 บาท (30 ธ.ค.59)
ทั้งนี้สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 2/60 จะออกมาดี
ด้าน บล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.90 บาท/หุ้น โดยราคาหุ้นที่ปรับลดลง 12.5% ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังยอดขายโครงการใหม่จำนวนมากไม่ตื่นเต้นตามที่ตลาดได้มีความคาดหวังก่อนหน้า ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมี upside ต่อราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 13.57%
ขณะที่แผนการเปิดตัวโครงการในครึ่งปีหลังยังคงดำเนินต่อไป และเราอาจคาดหวังยอดขายในระดับสูงจากทำเลที่ตั้งของโครงการที่เข้ามาในเมืองมากขึ้น เนื่องจาก ORI มีแผนเปิดโครงการในระดับ KnightsBridge Prime
นอกจากนี้กำไรไตรมาส 2/60 เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นทั้งจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อนจากโครงการแล้วเสร็จใหม่จะมาช่วยรายได้จากโครงการที่อยู่ระหว่างโอนกรรมสิทธิ์อยู่ สำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ก.ค.เพื่อพิจารณาการเข้าลงทุนในพราว เรสซิเดนซ์ จะเป็นการช่วยสนับสนุนโอกาสการเติบโตระดับสูงที่เราประมาณการไว้ได้เพิ่มเติม
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน