MONO ลุ้นกำไร Q2 โตทะลุ 3 เท่าตัว! รับรายได้ค่าโฆษณาพุ่ง
MONO ลุ้นกำไร Q2/60 โตทะลุ 3 เท่าตัว! รับรายได้ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูด ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" คาดผลประกอบการทั้งปีมีแนวโน้มเทิร์นอะราวด์
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกัน โดยวานนี้ (5 ก.ค.60) ปิดที่ระดับ 3.80 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 2.70% ด้านมูลค่าซื้อขาย 285.04 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงนั้น คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 ของบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่น จากอัตราค่าโฆษณาที่สูงขึ้นและอัตราการขายโฆษณาที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อีกทั้ง ภาพยนตร์และซีรี่ย์ของช่อง MONO ยังมีความโดดเด่นในด้านของ Content จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Rating ของเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างเด่นชัด นอกจากนี้ยังคาดว่า MONO จะได้รับอานิสงส์จากกรณี กสทช. สั่งห้ามเอเจนซี่ซื้อโฆษณาจากผู้ให้บริการ OTT ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกสทช. เนื่องจาก MONOMAXX ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว โดยจากปัจจัยข้างต้นคาดว่า จะส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีของ MONO พลิกกลับมามีกำไรได้อย่างโดดเด่น
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” MONO ราคาเป้าหมาย 4 บาท/หุ้น โดยผู้บริหาร MONO ปรับลดเป้ารายได้ปี 2560 ลงจากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 3,300 ล้านบาท เหลือ 3,000 ล้านบาท (ใกล้เคียงกับประมาณการของฝ่ายวิจัยที่ 3,009 ล้านบาท) เนื่องจากคาดธุรกิจดิจิตอลทีวีช่อง MONO29 อาจได้รับผลจากการเข้าสู่ช่วงพระราชพิธีในช่วงไตรมาส 4/60 ซึ่งจะทำให้ Utilization Rate ของช่องลดลง ทั้งนี้ผู้บริหารยังคงเป้าค่าโฆษณาของช่องไว้ที่ 28,000 บาท/นาที และคาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามความนิยมของช่อง
นอกจากนี้ ยังปรับธุรกิจ MVAS จากเดิมที่เน้นให้บริการ SMS Services เป็นหลัก เข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการ Subscription Services ที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ High-Res Video และ VR Technology มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริการต่างๆ ทั้งในส่วนของ MTHAI, MONOMAXX และ MAXXSTORE พร้อมเตรียมเปิดตัว Video Platform ใหม่ ภายใต้ชื่อ “SeeME” ซึ่งให้บริการในรูปแบบ OTT
โดยมีการแบ่งรายได้ค่าโฆษณากับ Partner ผู้ผลิต Content ที่นำมาลงใน Platform ดังกล่าว (คล้าย Youtube) โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นแตะ 500 ล้านบาทในปี 2562 ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้จากธุรกิจ MVAS ที่ปรับตัวลดลง และผลักดันให้ MONO กลายเป็นผู้ให้บริการสื่อที่ครบวงจรมากขึ้น
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงค่อนข้างมีมุมมองบวกต่อทิศทางธุรกิจ MONO จากความโดดเด่นของ Content ช่อง MONO29 (หนังและซีรี่ย์จากพันธมิตร) ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตจาก Rating ของเดือน มิ.ย. โต 21.8% จากปีก่อน บวกกับแผนปรับกลยุทธ์สำหรับธุรกิจ MVAS เข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการ OTT ที่มีแนวโน้มสดใสจากเม็ดเงินโฆษณาผ่านดิจิตอลที่โตเร็ว (CAGR ในช่วงปี 2557-2559 อยู่ที่ 32.5%)
อีกทั้งคาดได้อานิสงค์บวกจากกรณี กสทช. สั่งห้ามเอเจนซี่ซื้อโฆษณาจากผู้ให้บริการ OTT ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ กสทช. หลังวันที่ 22 ก.ค. นี้ (MONOMAXX ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว) จึงคาด MONO จะเริ่มพลิกมามีกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2560 ราว 327 ล้านบาท และโตต่อ 34.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2561 ได้ตามประมาณการเดิม
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” MONO ราคาเป้าหมาย 3.98 บาท/ หุ้น คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 54 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 134% จากไตรมาสก่อน , เพิ่มขึ้น 314% จากปีก่อน) จากอัตราค่าโฆษณาที่สูงขึ้นของช่อง TV ดิจิตอล (MONO 29) และอัตราการขายโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเป็น 90%
โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 เอาไว้ที่ 181 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะสดใสขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจทีวี (ธุรกิจหลัก) และรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจอื่น พร้อมยังคงราคาเป้าหมายในอีก 12 เดือนข้างหน้าเอาไว้ที่ 3.98 บาท
ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ของ MONO จะเพิ่มขึ้นเป็น 699 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน , เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อน) ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการเติบโตของช่อง MONO 29 ในขณะที่คาดว่ารายได้จากธุรกิจอื่นจะทรงตัว โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจาก 30% ในไตรมาส 1/60 เป็น 30.6% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ คาดว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขาย จะลดลงเหลือ 19.5% จาก 21.7% ในไตรมาส 1/60 ดังนั้น จึงคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 54 ล้านบาท
โดยถ้าหากกำไรในไตรมาส 2/60 เป็นไปตามที่คาดไว้ กำไรสุทธิในครึ่งแรกของปีนี้จะคิดเป็นสัดส่วน 43% ของประมาณการปี 2560 แต่อย่างไรก็ตามยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 เอาไว้ที่ 181 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะสดใสขึ้นในครึ่งปีหลังจากการที่บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนให้รายได้ในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นได้แก่ อัตราค่าโฆษณาของช่อง MONO 29 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามเรทติ้งของช่อง และรายได้จากธุรกิจอื่นปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะบริการดูหนังแบบบอกรับสมาชิก (Monomaxx) ซึ่งเริ่มมีบริการรองรับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ (เช่น Virtual Reality headset or 360 VR ฯลฯ) สำหรับชม Video On Demand (VOD) และการขยายตัวสู่ธุรกิจสื่อดิจิตอลเพิ่ม โดยการหาพันธมิตร และโฆษณาเพิ่มบนเว็บไซด์ของบริษัท (Mthai.com) รวมทั้งเตรียมที่จะเปิดตัว VDO portal platform ใหม่ (SEEME) ในเดือนสิงหาคม 2560