เปิด 14 หุ้น mai ครึ่งปีแรกราคาทรุดฮวบเกิน 30%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในรอบ 6 เดือน โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59 - 30 มิ.ย.60 โดยการสำรวจครั้งนี้จะขอนำเสนอหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงเกิน 30%
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในรอบ 6 เดือน โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59 – 30 มิ.ย.60 โดยการสำรวจครั้งนี้จะขอนำเสนอหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงเกิน 30%
โดยหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 14 ตัว ด้วยกันคือ EFORL, NEWS, TSF, DCORP, KOOL, VTE, SALEE, TACC, SEAOIL, FOCUS, PHOL, AUCT, DNA และ CHOW
อันดับ 1 บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL ราคาหุ้นปรับตัวแรง 55.56% มาอยู่ที่ระดับ 0.12 บาท (30 มิ.ย.60) ลบ 0.15 บาท จากระดับ 0.27 บาท (30 ธ.ค. 59) โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีความวิตกกัลวลถึงผลการดำเนินงานของบริษัท หลังจากที่ยังไม่มีการฟื้นตัว โดยในไตรมาสล่าสุดยังประสบผลขาดทุนสุทธิ 39.06 ล้านบาท
อันดับ 2 บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ราคาหุ้นปรับตัวแรง 55.56% มาอยู่ที่ระดับ 0.08 บาท (30 มิ.ย.60) ลบ 0.10 บาท จากระดับ 0.18 บาท (30 ธ.ค. 59) ราคาหุ้นปรับตัวลงบริษัทประกาศจะแตกพาร์จากเดิมหุ้นละ 5 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.82 แสนล้านบาท จากเดิม 4.25 หมื่นล้านบาท
โดยออกหุ้นใหม่ 239,420 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 5 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.013 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ครั้งที่ 6 (NEWS-W6)
อันดับ 3 บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ราคาหุ้นปรับตัวแรง 51.28% มาอยู่ที่ระดับ 0.19 บาท (30 มิ.ย.60) ลบ 0.20 บาท จากระดับ 0.39 บาท (30 ธ.ค. 59) โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากผลประกอบการยังไม่ฟื้นตัว โดยในไตรมาสล่าสุดยังประสบผลขาดทุนสุทธิ 118.46 ล้านบาท
อันดับ 4 บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP ราคาหุ้นปรับตัวแรง 38.59% มาอยู่ที่ระดับ 5.65 บาท (30 มิ.ย.60) ลบ 3.55 บาท จากระดับ 9.20 บาท (30 ธ.ค. 59) โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดยังประสบผลขาดทุนสุทธิ 16.96 ล้านบาท
ขณะที่เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 : Cash Balance มีผลวันที่ 13 ก.ค. 2560 สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.2560
อันดับ 5 บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ราคาหุ้นปรับตัวแรง 37.09% มาอยู่ที่ระดับ 3.46 บาท (30 มิ.ย.60) ลบ 2.04 บาท จากระดับ 5.50 บาท (30 ธ.ค. 59) โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดยังประสบผลขาดทุนสุทธิ 17.45 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากสังเกตหุ้นปรับตัวลงแรง ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบในเรื่องผลประกอบการ และทิศทางธุรกิจยังไม่สดใสทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหากมองอีกด้านหนึ่งถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้สะสมหุ้นกลุ่มนี้ เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนปีนี้ที่หุ้นเหล่านี้จะได้พิสูจน์ผลงงาน และโชว์แผนธุรกิจให้กับนักลงทุนได้มั่นใจ ถึงตอนนั้นหุ้นเหล่านี้ก็มีโอกาสกลับมาสดใสและดีดกลับไปราคาเดิมที่เคยร่วงลงมาก็เป็นได้
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน