จัดหุ้นกลุ่มเด็ดเน้นมีประเด็นบวกหนุน แนวโน้ม “Outperform”

จัดหุ้นกลุ่มเด็ดเน้นมีประเด็นบวกหนุน แนวโน้ม “Outperform” นำโดย กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร (KSL ,BRR เอทานอล) คาด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ที่ได้ทำการคัดเลือกกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเหนือตลาดในระยะสัปดาห์นี้ พบว่ามีกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร และกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดับที่เริ่มปรับตัวขึ้นมา

โดย นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ค.60) โดยคาดว่าสัปดาห์นี้ดัชนีฯหุ้นไทยยัง Sideways up ต่อได้ (แนวรับ 1,570/1,565 จุด แนวต้าน 1,585/1,590 จุด) โดยคาด Downside ขาลงดัชนีฯจะจำกัด พิจารณาจาก งบ บจ.ขนาดใหญ่ ที่จะประกาศรอบนี้ เช่น PTTEP SCC SCB BBL เราคาดมีโอกาสน้อยที่ Consensus จะปรับกำไรลงหลังงบออก เช่น PTTEP ตลาดคาดกำไรทั้งปี ที่ 2.4-2.5 หมื่นลบ. แต่กำไรครึ่งปีแรก 1.78 หมื่นลบ. คิดเป็น 72% ของคาดการณ์ทั้งปี 2017 แล้ว คิดว่ากำไรที่เหลือของปีไม่น่าจะพลาดไปจากนี้ ยกเว้นน้ำมันจะลงไป $30/บาร์เรล

ทั้งนี้คาดว่ากลุ่มที่จะ Outperform ตลาดระยะสัปดาห์ สินค้าโภคภัณฑ์เกษตร (KSL ,BRR เอทานอล) คาดเล่น Laggard ตามราคาน้ำมันดิบที่รีบาวด์ขึ้นมาในรอบนี้

อีกทั้งกลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO ,RATCH ,GLOW ,GPSC) คาดรับเม็ดเงินลงทุนที่ต้องการพักไว้เพื่อรอปันผล และหลบความเสี่ยงจากตลาดที่อาจผันผวนตามผลประกอบการ, COM7 ,JMART คาดขึ้นรับข่าว APPLE store จะเปิดร้าน Flagship store ในไทย ส่งผลยอดขายผลิตภัณฑ์ APPLE ในประเทศเพิ่มขึ้น จากการรุกงบการตลาดในประเทศไทย คาดงบโฆษณาที่เพิ่มขึ้น เป็น Sentiment บวกกับกลุ่ม Outdoor media : PLANB ,VGI

 

นอกจากนี้ บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า สถานการณ์ราคาน้ำตาลโลกปรับลดลงจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากบริษัท Petrobas (ผู้ผลิตและค้าปลีกน้ำมันรายใหญ่ของบราซิล) ประกาศปรับเพิ่มราคาขายน้ำมันขึ้น 1.7% จากเดิม ทำให้แนวโน้มราคาเอทานอลจะปรับเพิ่มขึ้น ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการน้ำตาลในประเทศบราซิลหันมาผลิตเอทานอลมีสัดส่วนที่มากขึ้น และลดสัดส่วนการผลิตน้ำตาลลงบางส่วน หนุนราคาน้ำตาลโลกปรับเพิ่มขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านราคาน้ำตาลที่ปรับเพิ่มขึ้น ถือเป็น Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อราคาขายเฉลี่ยปี 2559/60-61 ในกลุ่มน้ำตาล ได้แก่ KSL KTIS KBS และ BRR โดยราคาน้ำตาลโลกก็ยังถือว่าสอดคล้องกับสมมติฐานราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยปี 2559/60 ที่ฝ่ายวิจัยกำหนดไว้ จึงยังแนะนำซื้อ KSL (FV ปี 2561@B6) เนื่องจากแนวโน้มผลผลิตอ้อยในปี 2561 จะออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ KSL มีวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาล เอทานอลและไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ตามไปด้วย

 

ขณะเดียวกัน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าการปรับขึ้นค่า Ft ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.60  คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประกาศการปรับเพิ่มค่า Ft 8.87 สตางค์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สำหรับค่าไฟช่วงเดือน ก.ย.- ธ.ค. 2560 (เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดือน พ.ค. V ส.ค.) ซึ่งมากกว่าที่เคยกล่าวไว้ที่ระหว่าง 7-8 สตางค์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หนุนมุมมองเชิงบวกของเราแก่ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า SPP  เป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาขายไฟฟ้าต่อลูกค้าอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า SPP อ้างอิงกับราคา กฟภ. (ซึ่งรวมค่า Ft อยู่ในสูตร)

ทั้งนี้ หากมองไปข้างหน้า เราคาดว่าโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้น และการเลื่อนกำหนดการ การจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าถ่านหินน่าจะทำให้ค่า Ft ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้นเราจึงมองธุรกิจ SPP ยังน่าตื่นเต้นอยู่

Back to top button