ยอดผู้ใช้บริการพุ่ง! CHG ลุ้นกำไร Q2 ทะยานแตะ 159 ลบ.
CHG ลุ้นกำไร Q2/60 ทะยานแตะ 159 ล้านบาท รับผลดีเข้าฤดูฝนเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้แนวโน้มยอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น ด้านราคาหุ้นยังไม่สะท้อนผลประกอบการที่กำลังฟื้นตัวมากนัก
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG หลังเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/60 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
โดยนักวิเคราะห์มองว่า กำไรของ CHG ในช่วงไตรมาส 2/60 จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากการที่ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติ ผนวกกับการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก ส่งผลให้แนวโน้มยอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นในปัจจุบันยังไม่สะท้อนผลประกอบการที่กำลังฟื้นตัวมากนัก
อนึ่ง ราคาหุ้น CHG ปิดตลาดวานนี้ (20 ก.ค.) อยู่ที่ 2.52 บาท ลบ 0.02 บาท หรือ 0.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 143.33 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 3.10 บาท อยู่ 23.02%
โดยนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ CHG ให้ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท/หุ้น อิง DCF ราคาหุ้นปัจจุบันคาดยังไม่สะท้อนผลประกอบการที่กำลังฟื้นตัวมากนัก ทั้งนี้คาดว่ากำไรไตรมาส 2/60 จะอยู่ที่ 159 ล้านบาท โต 37.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือโต 4.2% เทียบจากไตรมาสก่อน
ส่วนแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 968 ล้านบาท โต 10.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือโต 3.4% เทียบจากไตรมาสก่อน จากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ (เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน) ประกอบกับมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออก เป็นผลให้มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการสูงขึ้น
โดยกลุ่มลูกค้าเงินสดคาดกลับมาโตทั้ง OPD และ IPD ส่วนลูกค้าประกันสังคมน่าจะเข้าใช้บริการสูงขึ้นเป็น 4.10 แสนราย (จากไตรมาส 1/60 ที่ 4.01แสนราย) สำหรับต้นทุนการให้บริการน่าจะถูกกดดันน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้าจากเลื่อนเปิดจำนวนเตียงให้บริการใน CHG ชลเวช เป็นกลางเดือน มิ.ย. 60 (เดิมคาดเปิดต้นไตรมาสสอง)
ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาที่ 33.8% เทียบกับไตรมาส 2/59 ที่ 29.2% และไตรมาส 1/60 ที่ 33.3% ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ คาดทรงตัวส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 2/60 อยู่ที่ 159 ล้านบาท โต 37.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือโต 4.2% เทียบจากไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ยังคงประมาณการกำไรปี 60 ที่ 664 ล้านบาท โต 17.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดผลประกอบการในครึ่งปีหลังปี 60 ดีกว่าครึ่งปีแรกปี 60 จากเป็นช่วง Highseason (ช่วงเปลี่ยนฤดูฝนเป็นฤดูหนาว มีโอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆสูง) คาดมีจำนวนผู้ป่วยเข้าใช้บริการหนาแน่นกว่าเทียบ h-h คงประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ไว้ที่ 664 ล้านบาท โต 17.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามสมมติฐานรายได้กิจการโรงพยาบาลที่ 4,060 ล้านบาท โต 11.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย CHG ที่ 2.80 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่ากำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/60 ถึงครึ่งปีหลังปี 60 อยู่ในจุดที่ดีในปี 60 หลังผู้ป่วยทั้ง OPD, IPD และกลุ่มประกันสังคมเพิ่มขึ้นจากฝนตกเร็วและโรคไข้หวัดใหญ่ระบาด โดยกำไรจะสูงสุดงวดไตรมาส 3/60 ขณะที่ แผนระยะ 3 ปีนี้ยังมีการเพิ่ม Capacity อย่างต่อเนื่อง ประเมินกำไรจะเติบโตปีละ 16%
ทั้งนี้เป็นกลุ่มที่มีความน่าสนในด้าน Stock rotation หลังราคาหุ้นกลุ่ม Health YTD ที่ลดลงถึง 13% สูงสดในตลาด และเป็น under own ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง โดย PER ปี 60 อยู่ที่ 41 เท่า สูงกว่ากลุ่มฯ ซึ่งอยู่ที่ 37 เท่า
อย่างไรก็ตาม Sentiment บวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลทั้งฝนตกเร็ว และผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลางที่ยังเดินทางเข้าไทยต่อเนื่อง โดยในเดือนมิ.ย.นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มถึง 58% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจะลดความกังวลของตลาดลงหลังปรับฐานหนักตั้งแต่ต้นปี