FTE ลุ้นเทรดสนั่น 4.5 บ. โชว์พื้นฐานแกร่งหนุนธุรกิจโตกระฉูด!

FTE ลุ้นเทรดสนั่นทะยานแตะ 4.50 บาท จากราคา IPO ที่ 2.95 บาท โชว์ธุรกิจโตสดใส-จุดเด่นเพียบ มั่นใจงานปรับปรุงระบบดับเพลิงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) ทั่วประเทศหนุนกำไรโตระยะยาว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (27 ก.ค.) บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE เข้าซื้อขาย SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ ด้วยจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชำระแล้ว 600,000,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 300,000,000 บาท โดย FTE ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150,000,000 หุ้น ราคา IPO หุ้นละ 2.95 บาท โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

 

นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ FTE เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงแบบครบ รวมถึงการให้บริการออกแบบ จำหน่าย จัดหา รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ให้บริการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ดับเพลิงและงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการดับเพลิง โดยธุรกิจบริษัทมีรายได้จากการนำเข้าและจัดจำหน่ายสัดส่วน 70% และมีรายได้จากการออกแบบและติดตั้งระบบสัดส่วน 30%

สำหรับกลุ่มลูกค้าและสัดส่วนรายได้จะแยกตามกลุ่มลูกค้า คือ ลูกค้ากลุ่มผู้ออกแบบงานระบบดับเพลิงและกลุ่มผู้รับเหมางานระดับดับเพลิงสัดส่วน 55% และกลุ่มลูกค้าเจ้าของโครงการหรือกลุ่มผู้ใช้งานโดยตรงสัดส่วน 24% และลูกค้ากลุ่มร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับงานระบบดับเพลิงสัดส่วน 21%

ส่วนงานติดตั้งตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลูกค้าที่ใช้บริการ อาทิ SPALI AP เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ผู้รับเหมาโครงการ โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(Backlog) โครงการคอนโดที่เปิดตัวไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน โดยตอนนี้โครงการใกล้แล้วเสร็จ งานดับเพลิงติดอุปกรณ์บริษัทจะอยู่ในช่วงท้ายๆก่อนส่งมอบโครงการ ซึ่งตรงนี้บริษัทงานในมือประมาณ 100 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการมูลค่าประมาณ 2-5 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังรับติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงในส่วนของโรงงาน โดยถือเป็นงานที่ได้เปรียบคู่แข่ง เนื่องจากบริษัทสามารถไปทำงานออกแบบและติดตั้งระบบไปด้วย โดยในอนาคตบริษัทจะหันมารับงานด้านนี้มากขึ้น

สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงงานน้ำตลาดมิตรผล ซึ่งบริษัทรับงานมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา  เนื่องจากะโรงงานต้องปรับปรุงระบบดับเพลิงตลอด ประกอบกับ 5 ปีที่ก่อน กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกกฎหมายข้อบังคับ เรื่องการติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงานจึงทำให้บริษัทได้รับผลดี

นอกจากนี้บริษัทยังได้มีโอกาสเข้าไปรับงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) โดยเดิมที่ EGAT ที่ผ่านมามีสถานีจ่ายไฟฟ้าย่อย(ซับสเตชั่น) ขนาด 115 เควีเอ ขนาด 230 เควีเอ และ 500 เควีเอ ซึ่งในซับสเตชั่นเล็กๆจะมีแค่ถังดับเพลิง และขนาด 500 เควีเอ จะมีระบบบ้าง แต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้เกิดเพลิงไหม่ซับสเตชั่น อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ทำให้เกิดการหยุดชะงักเรื่องการจ่ายไฟ EGAT ซึ่งได้เห็นถึงความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ทุ่มงบประมาณเพื่อปรับปรุงระบบดับเพลิงทุกสถานีในประเทศ

ทั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทได้เข้าไปรับงาน โดยใน 5 ปี ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงสถานีไปแล้ว 50 สถานี จากทั้งหมด 218 สถานี โดยยังเหลืออีก 168 สถานียังไม่ได้ปรับปรุง โดย 50 สถานี ที่ปรับปรุงบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ประมาณ 65% ซึ่งได้รับงานปรับปรุงระบบดับเพลิงทุกสถานีในประเทศจาก EGATโดยยังเหลืออีก 168 สถานียังไม่ได้ปรับปรุง

สำหรับจุดแข็งที่ทำให้บริษัทรักษาความเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงแบบครบวงจรได้อย่างแข็งแกร่ง อาทิ สินค้าที่บริษัทเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศข้อดีคือบริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายในไทย ซึ่งบริษัทดีลกันมานานกว่า 27 ปี และสินค้าที่นำเข้ามาส่วนใหญ่เป็นสินค้าอันดับต้นๆ ของโลกก็เป็นข้อได้เปรียบ ลูกค้าอยากได้สินค้ามาตรฐานก็จะมาเลือกใช้สินค้าบริษัท อีกทั้งบริษัทมีสินค้าครบทุกรายการซึ่งมากกว่าคู่แข่ง 20-30% และบริษัทสามารถขยายยอดขายได้มากและยิ่งไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงินทุนยิ่งทำให้พนักงานขายขยายงานได้เต็มที่

ขณะเดียวกันมั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทไม่มีขาลง กล่าวคือ บริษัทอิงกับธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งมีเรื่องกฎหมายของราชการ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร กฎหมายของกรมโยธาธิการ กฎหมายกระทรวงแรงงานอุตสาหกรรม เรื่องของแรงงาน เรื่องประกันภัย ค่อนข้างบังคับ และเกิดไฟไหม้ ทำให้เกิดการยกระดับข้อบังคับของบังคับใน สวท. ตรงนี้ทำให้เป็นผลดีต่อธุรกิจ

โดยการระดมทุนครั้งนี้ FTE จะนำเงินที่ได้มาใช้ในการสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ เปิดสำนักงานขายและบริการในประเทศ ประกอบด้วย ระยอง เชียงใหม่ และภูเก็ต รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์ดับเพลิงครบวงจร และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 60 จะเติบโตในทิศทางเดียวกับช่วงไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 236.62 ล้านบาท หรือเติบโต 15.88% จากไตรมาส 1/59 ที่มีรายได้ 204.19 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ทั้งหมด 295.51 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 80% ของมูลค่างานทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 40%

 

ด้าน นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM เปิดเผยว่า FTE เป็นบริษัทที่มีความโดดเด่นในธุรกิจจำหน่าย ออกแบบ ติดตั้งอุปกรณ์และระบบดับเพลิงครบวงจร การระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นส่วนที่เสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตให้ FTE ได้เป็นอย่างมาก

ธุรกิจของบริษัทมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี จากโครงการภาครัฐและเอกชนที่มีความจำเป็นในการติดตั้งอุปกรณ์และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร รวมถึงการออกแบบติดตั้งระบบตามสถานีไฟฟ้าแรงสูงที่มีแผนการการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของปริมาณการใช้ไฟฟ้าในประเทศ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้ารับงานในอนาคต เชื่อมั่นว่า FTE สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และจะเป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะกลาง-ยาว จากการมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี การเติบโตของผลประกอบการ และความพร้อมในการขยายธุรกิจ”นายสมศักดิ์ กล่าว

สำหรับการเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะหลังจากที่ได้เดินทางนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนทั้งหมด 14 จังหวัด ได้รับการตอบที่ดีจากนักลงทุน และบริษัทยังมีงานที่จะได้รับเพิ่มเติมจากงานโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน โครงการโรงไฟฟ้าต่างๆ และโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่จะมีงานเข้ามาเพิ่มเติมให้กับบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน FTE แต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ร่วมกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย), บล.โกลเบล็ก, บล.ทรีนีตี้ และ บล.เอเซีย พลัส

 

อนึ่ง FTE เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงแบบครบวงจร ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงการให้บริการออกแบบ รับเหมา ติดตั้งระบบดับเพลิง และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้

สำหรับผลประกอบการประจำปี 59 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 73.83 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/60 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.94 ล้านบาท

 

ด้าน นักวิเคราะห์บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ FTE ที่ 2.95 บาท มีระดับ P/E ที่ 18.1 เท่า ซึ่งมีส่วนลดอยู่ที่ 49.5% เมื่อเทียบกับ P/E ของบริษัทที่มีธุรกิจใกล้เคียงกันอยู่ที่ 30 เท่า ก็มองว่าเป็นราคาที่มีความเหมาะสม และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน

ทั้งนี้ มองว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาการเข้าจดทะเบียนของบริษัทส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ และเป็นกลุ่มพลังงาน จึงทำให้นักลงทุนไม่มีตัวเลือกมากนัก แต่ช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่ากระแสตอบรับของหุ้น IPO จะปรับตัวดีขึ้น เพราะมีหุ้นที่ขนาดเล็กและขนาดกลาง และมีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน

ช่วงครึ่งปีแรกหุ้น IPO ส่วนใหญ่ก็เป็นขนาดใหญ่ และเป็นธุรกิจพลังงานเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงทิศทางของผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ที่ส่วนใหญ่จะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการมักจะดีกว่า เชื่อว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น และเชื่อว่าหุ้น IPO ที่มีธุรกิจหลากหลายจะทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือก และสนใจเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย และ FTE ก็จะเป็นตัวแรกในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเข้าซื้อขายก็เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน”นายสมภพ กล่าว

ทั้งนี้ FTE เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงและให้บริการออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบระบบดับเพลิงที่ครอบคลุม และด้วยความที่เป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความชำนาญสูง จึงทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง คาดกำไรปี 60 ของ FTE จะเติบโต 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 106 ล้านบาท ส่วนปี 61-62 คาดโตเฉลี่ย 12% ต่อปี ประเมินมูลค่าที่เหมาะสม 4.00 บาท อิง PE 22.5 เท่า

 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าราคาหุ้น FTE เข้าซื้อขายในวันแรก (27 ก.ค.) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นถึง 4.50 บาท จากราคา IPO ที่ 2.95 บาท โดยคำนวณจากค่า P/E ที่ระดับ 20 เท่า และกำไรต่อหุ้นที่ 0.225 บาท

โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้ FTE จะมีกำไรเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ไตรมาส 1/60 มีกำไร 27.23 ล้านบาท อีกทั้งในไตรที่เหลือจะเป็นช่วงที่บริษัทเข้าลงทุนเพิ่มเติมอย่างเต็มที่ พร้อมชูจุดแข็งสำหรับการได้รับงานปรับปรุงระบบดับเพลิงทุกสถานีในประเทศจำนวน 218 สถานีจาก EGAT ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนกำไรให้เติบโตได้ในระยะยาว

Back to top button