27 หุ้น Outperform! ราคาทะยานกว่า 40%

27 หุ้น Outperform! ราคาทะยานกว่า 40%


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET รอบ 7 เดือนที่ผ่านมา โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากบจ.ที่มีสภาพคล่อง และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกิน 40% เทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59 ถึงวันที่ 31 ก.ค.60 ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นไทย

สำหรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET ในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 2.15% โดยเทียบจากดัชนียืนอยู่ที่ระดับ 1,542.94 จุด (30 ธ.ค. 59) มาอยู่ที่ระดับ 1,576.08 จุด (31 ก.ค.) บวกไป 33.14 จุด สำหรับบจ.ที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงเกิน 40% มีทั้งหมดดังตารางประกอบ

 

โดยอันดับ 1 บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ราคาหุ้นในรอบ 7 เดือนเพิ่มขึ้น 151.11% มาอยู่ที่ระดับ 11.30 บาท(31 ก.ค.) บวกไป 6.80 บาท จากระดับ 4.50 บาท (30 ธ.ค.59) โดยคาดว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการที่คาดว่าไตรมาส 2/60 จะออกมาดีต่อเนื่อง หลังจากที่กำไรไตรมาส 1/60 กำไรเติบโต 880%

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำเก็งกำไร ASIAN คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะออกมาดี

อันดับ 2 บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ BAT-3K ราคาหุ้นในรอบ 7 เดือนเพิ่มขึ้น 104.49% มาอยู่ที่ระดับ 273 บาท(31 ก.ค.) บวกไป 139.50 บาท จากระดับ 133.50 บาท (30 ธ.ค.59) โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นหลังจากที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท สยาม มากิ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ฮิตาชิ เคมิคอล จำกัด โดยขายหุ้นจำนวน 8,780,730 หุ้น คิดเป็น 43.9% ของหุ้นที่ออกแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ในราคาหุ้นละ 275 บาท

อันดับ 3 บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ราคาหุ้นในรอบ 7 เดือนเพิ่มขึ้น 88.75% มาอยู่ที่ระดับ 15.10 บาท (31 ก.ค.) บวกไป 7.10 บาท จากระดับ 8 บาท (30 ธ.ค.59) โดยคาดว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการที่คาดว่าไตรมาส 2/60 จะออกมาดีต่อเนื่อง หลังจากที่กำไรไตรมาส 1/60 กำไรเติบโต 94%

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ของ ORI สดใสขึ้นมาก 16% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, 174% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก 3 โครงการใหม่ที่เริ่มทยอยโอน

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้จะยิ่งเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะไตรมาส 4/60 ที่เริ่มรับรู้รายได้จากคอนโดหรู Park 24 ยังคงคาด EPS growth ปีนี้ 75% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนปีหน้า 52% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน PE ปัจจุบันที่ 14 เท่าจะลดเหลือเพียง 9.5 เท่าปีหน้า  แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 16 บาท

อันดับ 4 บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ราคาหุ้นในรอบ 7 เดือนเพิ่มขึ้น 83.95% มาอยู่ที่ระดับ 2.98 บาท (31 ก.ค.) บวกไป 1.36 บาท จากระดับ 1.62 บาท (30 ธ.ค.59) โดยคาดว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการที่คาดว่าไตรมาส 2/60 จะออกมาดีต่อเนื่อง

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย ECL  ที่ 3.64 บาทต่อหุ้น โดยประเมินแรงขายทำกำไรหลังราคาหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องจน Upside จากราคาเป้าหมายเริ่มจำกัด ล่าสุดราคาหุ้นที่พักฐานลงมาจนทำให้เริ่มมี Upside ในเชิงพื้นฐาน

สำหรับนักลงทุนที่ขายตัดขาดทุนตามที่แนะนำไปแล้ว / นักลงทุนที่ยังไม่ขายตัดขาดทุน อาจพิจารณารอให้สร้างฐานได้จึงเข้าสะสม / ซื้อถัวเฉลี่ย โดยประเมินแนวรับหลักถัดไปที่ 3 บาท ทั้งนี้ยังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 เทิร์นอะราวด์เด่นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและครึ่งปีหลังปี 60 โตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก

อันดับ 5 บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH ราคาหุ้นในรอบ 7 เดือนเพิ่มขึ้น 82.22% มาอยู่ที่ระดับ 1.64 บาท (31 ก.ค.) บวกไป 0.74 บาท จากระดับ 0.90 บาท (30 ธ.ค.59) โดยคาดว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรผลประกอบการที่คาดว่าไตรมาส 2/60 จะออกมาดีต่อเนื่อง หลังจากที่ไตรมาสแรกมีกำไร 17.24 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงดังกล่าว ส่วนใหญ่จะได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่เอื้อให้ผลการดำเนินงานโดดเด่น ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นหลังมองเห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการวางแผนธุรกิจของผู้บริหาร อย่างไรก็ตามราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอาจอยู่ในภาวะแรงซื้อมากเกินไป นักลงทุนก็ต้องระวังการเข้าลงทุนไว้ด้วย ขณะที่ต้องดูค่า P/E เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าหุ้นตัวนั้นถูกหรือแพงเกินไปหรือไม่

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button