เปิดหุ้น Top Pick กลุ่มรพ.กำไร Q2 แกร่ง! ครึ่งปีหลัง High Season
เปิด 4 หุ้น Top Pick กลุ่มการแพทย์ ยกซดกำไร Q2/60 ทะลัก! แนวโน้มครึ่งปีหลังยังแกร่งหลังเข้าช่วง High Season
หลังเข้าช่วงประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 พบว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย (บจ.)กลุ่มการแพทย์ที่เริ่มประกาศตัวเลขออกมามีกำไรเติบโตอย่างโดดเด่น ขณะเดียวกันบจ.ที่ยังไม่ได้ประกาศตัวเลขออกมาอีกหลายรายก็มีแนวโน้มว่าผลการดำเนินงานจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยได้อานิสงส์จากฤดูฝนที่มาเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้มีผู้ป่วยมากขึ้น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจบจ.ในกลุ่มการแพทย์ ที่คาดว่าผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างโดดเด่น รับอานิสงส์การเพิ่มเงินของสำนักงานประกันสังคม ขณะที่ช่วงท้ายปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาในประเทศไทย และอาจจะเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
โดยบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 มีกำไร 960.01 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีก่อน 858 ล้านบาท
พร้อมประกาศจ่ายปันผลจาก งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.2560 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2560 เป็นเงินสดจำนวน 1.00 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่ได้รับสิทธิปันผลในวันที่ 22 ส.ค.2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 ก.ย.2560
ด้านบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 มีกำไร 3.79 พันล้านบาท เติบโต 127% จากปีก่อน มีกำไร 1.67 พันล้านบาท
ขณะที่บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 มีกำไร 118.74 ล้านบาท เติบโต 2.46% จากปีก่อน มีกำไร 115.89 ล้านบาท
โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) โดยแนะนำ “Overweight” กลุ่มการแพทย์ ทั้งนี้คาดกำไรไตรมาส 2/60 ของกลุ่มการแพทย์หดตัว 10.8% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อน โดยได้อานิสงส์จากฝนที่มาเร็ว ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 60 คาดว่าจะเติบโตทั้งจากครึ่งปีแรก และจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน หนุนโดย High Season
รวมถึงการปรับเพิ่มเงินของสำนักงานประกันสังคม ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติคาดว่ายังเติบโตได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งเอเชียตะวันออก ส่วนตะวันออกกลางเชื่อว่าได้ผ่านการปรับฐานใหญ่ไปแล้ว เราคาดกำไรปกติปี 60 และ 61 ทรงตัวจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน (ไม่รวม BDMS เพิ่มขึ้น 8.2% จากปีก่อน) และเพิ่มขึ้น 7.6% จากปีก่อน ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนในครึ่งปีหลังปี 60 จากการปรับเพิ่มการจ่ายเงินของสำนักงานประกันสังคมเฉลี่ยราว 5-6% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทำให้โรงพยาบาลที่รับประกันสังคมอย่าง BCH ,CHG ,LPH และ VIBHA ได้รับประโยชน์โดยตรงซึ่งเราคาดว่าจะทำให้กำไรปกติของแต่ละบริษัทเพิ่มขึ้นจากฐานเดิมราว 2.5-6% ยังคงน้ำหนักการลงทุน “Overweight” โดยเลือก BCH เป็น Top Pick
ขณะเดียวกัน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) ยังคงน้ำหนักการลงทุน Overweight สำหรับกลุ่มการแพทย์จากผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวและคาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งในช่วง 5-10 ปีข้างหน้าจากสังคมผู้สูงอายุที่เป็น Megatrend แม้เราคาดกำไรปกติปี 60 ของกลุ่มทรงตัวจากปีก่อน แต่หากตัด BDMS ออกยังสามารถโตได้ 8.2% จากปีก่อน และโตต่อเนื่องอีก 7.6% จากปีก่อน ในปีหน้า
ทั้งนี้ปัจจุบันเราชื่นชอบโรงพยาบาลที่มีประกันสงคมมากกว่าเงินสดเพียงอย่างเดียว จึงเลือก BCH เป็น Top Pick จากการเติบโตของกำไรและ Valuation ที่ดูน่าสนใจที่สุด
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์กลุ่ม โรงพยาบาล จะแจ้งผลกำไรโดดเด่นที่สุดในไตรมาส 2 กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ยังเน้น Selective buy ตามเดิม โดยเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/17 จะออกมาดีและดีต่อเนื่องในไตรมาส 3/17 และกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มโรงพยาบาลเข้าสู่ช่วง High Season (BCH ,CHG และ VIBHA)
ทั้งนี้แนะนำหุ้นเก็งกำไรระยะสั้น CHG (ซื้อ/เป้า 2.90) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/17 เติบโตมากที่สุดของกลุ่มโรงพยาบาล เบื้องต้นประเมินกำไรที่ 145 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/17 โตต่อเนื่องจาก High season ของธุรกิจโรงพยาบาล
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน