ยลโฉม 22 หุ้น mai ราคาร่วงสยอง! พาเม่าขาดทุนยับ
ยลโฉม 22 หุ้น mai ราคาร่วงสยอง! พาเม่าขาดทุนยับ EFORL ,TSF ,DCORP ,KOOL ,PPM นำทีม!
หลังจากภาวะตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนปรับตัวขึ้นได้ดี หากนับตั้งแต่ต้นปีดัชนีมีการปรับตัวขึ้นถึง 100.61 จุด หรือคิดเป็น 6.52% นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2559 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,542.94 จุด อย่างไรก็ตามถึงแม้ภาวะตลาดจะสดใสแต่ก็ยังคงมีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อยู่หลายบจ.ด้วยกันที่ปรับตัวลงสวนกระแสตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะบจ.ใน mai ซึ่งปรับตัวลดลงหลังจากเจอประเด็นข่าวร้าย และผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาด
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบจ.ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาด mai รอบ 8 เดือนที่ผ่านมา โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.59-30 ส.ค.60 ซึ่งใช้เกณฑ์การคัดเลือกราคาหุ้นที่ปรับตัวลงเกิน 30% และเป็นบริษัทที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอ
สำหรับหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย EFORL ,TSF ,DCORP , KOOL ,PPM ,2S ,PHOL ,AU ,SEAOIL ,COMAN ,AUCT ,TNDT ,VTE ,FOCUS ,HOTPOT ,SALEE ,IRCP ,TNP ,TVD ,QTC และTACC เรียงตามลำดับจากการปรับตัวลดลงมากไปหาน้อย
โดย บจ.5 อันดับแรกที่ราคาปรับตัวขึ้นเกิน 30% มีดังนี้
อันดับ 1 บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL ราคาหุ้นในรอบ 8 เดือนปรับตัวลง 59.26% มาอยู่ที่ระดับ 0.11 บาท (30 ส.ค.) ลบไป 0.16 บาท จากระดับ 0.27 บาท (30 ธ.ค.59)
โดยราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งล่าสุด ไตรมาส 2/60 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 60.91 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 49.48 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในช่วงดังกล่าวที่กำไรขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการลดลง การลดลงของรายได้ในไตรมาส 2 เกิดจากรายได้ที่เกิดขึ้นในไตรมาสก่อนมาจากยอดสั่งซื้อเครื่องมือแพทย์จากโรงพยาบาลซึ่งเปิดบริการใหม่ อีกทั้งในไตรมาสนี้มีการสั่งซื้อสินค้าลดลงจากปีก่อนเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม
อันดับ 2 บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ราคาหุ้นในรอบ 8 เดือนปรับตัวลง 56.41% มาอยู่ที่ระดับ 0.17 บาท (30 ส.ค.) ลบไป 0.22 บาท จากระดับ 0.39 บาท (30 ธ.ค.59)
โดยราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งล่าสุด ไตรมาส 2/60 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 63.63 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 31% จากไตรมาสก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 92.99 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2560 บริษัทขาดทุนลดลง เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายในการบริหาร ไตรมาสที่ 2 ปี 2560 มีจำนวน 13.01 ล้านบาท ลดลง 38.56 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ซึ่งมีจำนวน 51.57 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิ ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ลดลง
อันดับ 3 บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP ราคาหุ้นในรอบ 8 เดือนปรับตัวลง 53.91% มาอยู่ที่ระดับ 4.24 บาท (30 ส.ค.) ลบไป 4.96 บาท จากระดับ 9.20 บาท (30 ธ.ค.59)
โดยราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งล่าสุด ไตรมาส 2/60 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1.34 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 87% จากไตรมาสก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 10.87 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวขาดทุนลดลงเนื่องจากบริษัทมีรายได้ค่าร่วมผลิตรายการ
อันดับ 4 บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ราคาหุ้นในรอบ 8 เดือนปรับตัวลง 48.36% มาอยู่ที่ระดับ 2.84 บาท (30 ส.ค.) ลบไป 2.66 บาท จากระดับ 5.50 บาท (30 ธ.ค.59)
โดยราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งล่าสุด ไตรมาส 2/60 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1.13 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนมีกำไรสุทธิ 85.37 ล้านบาท ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกขาดทุน เนื่องจากมีรายได้จากการขายลดลง
อันดับ 5 บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ราคาหุ้นในรอบ 8 เดือนปรับตัวลง 41.38% มาอยู่ที่ระดับ 2.38 บาท (30 ส.ค.) ลบไป 1.68 บาท จากระดับ 4.06 บาท (30 ธ.ค.59)
โดยราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงาน ซึ่งล่าสุด ไตรมาส 2/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.34 ล้านบาท ลดลง 78% จากไตรมาสก่อนมีกำไรสุทธิ 10.92 ล้านบาท เป็นผลจากกำไรเบื้อต้นจากการขายและให้บริการลดลง
ทั้งนี้จะเห็นว่าบจ.ดังกล่าวที่ปรับตัวลง เกิดจากผลประกอบการที่ไม่สู้ดีนัก ขณะที่บางบจ.มีประเด็นข่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัท ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกและทำการขายหุ้นออกมา อย่างไรก็ตามหุ้นที่ปรับตัวลงแรงนั้น หุ้นบางตัวอาจถูกปัจจัยลบส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง ทั้งนี้นักลงทุนยังสามารถเลือกซื้อหุ้นที่มีราคาถูกเหล่านี้ได้ หากบริษัทนั้นๆยังมีผลการดำเนินงานที่ดี และพื้นฐานยังแข็งแกร่ง เพราะหากมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งหุ้นจะมีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน