GFPT ลุ้นกำไร Q3 โตสนั่น! รับธุรกิจส่งออกไก่ขยายตัว-ต้นทุนวัตถุดิบลด
GFPT ลุ้นกำไร Q3/60 โตสนั่น! รับธุรกิจส่งออกไก่ขยายตัว-ต้นทุนวัตถุดิบลดฮวบ ฟากโบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" อัพไซต์เหลือเพียบ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของบริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT โดยนักวิเคราะห์มองว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3/60 จะเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน ซึ่งได้รับผลดีจากการส่งออกไก่ที่ยังเติบโตและได้ราคาดีขึ้น โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มจากญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (อียู) หลังจากบราซิลมีปัญหาการผลิต ประกอบกับ ราคาต้นุทนวัตถุดิบทั้งข้าวโพด และกากถั่วเหลือง ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากทำให้มาริ์จิ้นสูงขึ้น
พร้อมทั้งคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 60 อยู่ที่ราว 1.9 พันล้านบาท เติบโต 17-18% จากปีก่อน และในปี 61 กำไรสุทธิยังเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดอยู่ที่ราว 2.05 พันล้านบาทเติบโต 6-7%
โดยราคาหุ้น GFPT ล่าสุดปิดตลาดวานนี้ (21 ก.ย.) อยู่ที่ 19.80 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.51% มูลค่าซื้อขาย 167.39 ล้านบาท นอกจากนี้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ที่ 24 บาท อยู่ 21.21%
ด้านนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” GFPT ให้ราคาเป้าหมาย 24 บาท/หุ้น โดยคาดว่า GFPT จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 ที่ 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากงวดปีก่อน และไตรมาสก่อน ซึ่งได้แรงหนุนจากปริมาณยอดส่งออกของ GFPT ที่ขยายตัวต่อเนื่องมาที่ 8,500 ตัน เพิ่มขึ้น 6% จากงวดปีก่อน และ 13% จากไตรมาสก่อน ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นจากบริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด (GFN) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน
ขณะที่ปริมาณยอดส่งออกไก่ของทั้งประเทศไทยแตะ 3.7 แสนตันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่งผลให้คาดว่าสมาคมผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทยจะปรับเป้ายอดส่งออกไก่ไทยสำหรับปี 60 เพิ่มจาก 7.7 แสนตันไปเป็น 8 แสนตัน จากแนวโน้มปริมาณยอดส่งออกจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องไปยังช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และต่อเนื่องไปยังช่วงครึ่งแรกของปี 61 จากออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นของประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ GFPT ยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มอาหารที่ชื่นชอบมากที่สุด ณ ปัจจุบัน เนื่องจากกำไรที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 60 และราคาหุ้น ณ ปัจจุบันที่ยังคงน่าสนใจ อัตราการเติบโตของปริมาณยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง ราคาส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้น มาร์จิ้นของผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และราคาวัตถุดิบที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปจะเป็นปัจจัยบวกต่ออัตราการเติบโตของกำไรในช่วงครึ่งหลังของปี 60 ไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 61
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” GFPT ให้ราคาเป้าหมาย 22 บาท/หุ้น โดยได้ปรับคำแนะนำจาก Take Profit มาเป็น Trading Buy จากการปรับประมาณการกำไรสะท้อนอัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการเติบโตของการส่งออกไก่โดดเด่น ราคาไก่ในประเทศเพิ่มขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ยังต่ำ โดยราคาข้าวโพดปรับตัวลดลง 8% จากปีก่อน และกากถั่วเหลืองราคาลดลง 15-16% จากปีก่อน
โดยคาดว่า GFPT จะสามารถทำกำไรสุทธิในไตรมาส 3/60 สูงสุดของปี และเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยประมาณการกำไรสุทธิปี 60 อยู่ที่ 1.92 พันล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อน และปี 61 มีกำไรสุทธิ 2.06 พันล้านบาท เติบโต 7% โดยในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะรับรู้กำไรจากแมคคีย์ บริษัทลูกซึ่งถือหุ้น 49% จากขยายกำลังการผลิตไก่ปรุงสุกเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 2,000-2,500 ตัน/เดือน เป็น 4,000-5,000 ตัน/เดือน โดยคาด GFPT จะรับรู้กำไรจากแมคคีย์ในปี 60 ราว 210 ล้านบาท และ 260 ล้านบาทในปี 61
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ทยอยซื้อ” GFPT ให้ราคาเป้าหมาย 21.20 บาท/หุ้น โดยมองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ GFPT ในไตรมาส 3/60 จะเติบโตได้จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเติบโตกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เพราะภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ส่งออกยังเติบโตได้ดี รวมทั้งราคาก็ยังดี และในไตรมาส 3 นี้เป็นช่วงไฮซีซั่น แม้จะเผชิญกับเงินบาทแข็งค่า แต่ GFPT มีสัดส่วนส่งออกประมาณ 30-40% จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
นอกจากนี้ ด้านราคาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ก็ปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาขายในประเทศ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยในเดือนส.ค.60 ราคาไก่ในประเทศอยู่ที่ 38 บาท/กิโลกรัม (กก.)
ขณะที่คาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะยังเติบโตได้จากผลของฤดูกาล ทำให้ปริมาณการส่งออกยังเติบโตได้ราว 10% อีกทั้งแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่ไม่สูงนักยังเป็นปัจจัยหนุนต่อการดำเนินงาน แต่คาดว่าการรับรู้กำไรจากบริษัทร่วม
โดยเฉพาะจากแมคคีย์จะลดลงจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในโรงงานแห่งใหม่จะเริ่มผลิตได้ช่วงปลายไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป ดังนั้น คาดว่า GFPT จะมีกำไรสุทธิปี 60 อยู่ที่ 1.94 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน และในปี 61 มีกำไรสุทธิ 2.05 พันล้านบาท เติบโต 6%
ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกไก่คาดการณ์ปริมาณการส่งออกไก่ปี 60 อยู่ที่ 8 แสนตันเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน และแนวโน้มอุตสาหกรรมไก่ส่งออกของไทยปี 61 คาดว่ายังดีและเอื้อต่อผู้ส่งออกของไทยทั้งจากการอนุญาตนำเข้าในตลาดใหม่ๆ ที่เคยห้ามนำเข้าไก่จากไทยจากปัญหาไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาสารปนเปื้อนที่เกิดขึ้นกับเนื้อสัตว์ส่งออกในบราซิลทำให้ผู้นำเข้ารายใหญ่ ทั้งญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปหันมาสั่งจากไทยมากขึ้น