เปิดชื่อหุ้นกำไรโตเด่น พร้อมส่อง 5 หุ้นงบฯ Q3 ส่อแวววูบ! รับผลกระทบโลว์ซีซั่น

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เริ่มทยอยประกาศงบไตรมาส 3/60 ออกมาตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.60 และยังเหลือบริษัทจดทะเบียนในอีกหลายกลุ่มที่ยังไม่ได้ประกาศผลการดำเนินงานออกมา ทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมข้อมูลหุ้นที่คาดผลงานงวดดังกล่าวจะมีกำไรโดดเด่น อีกทั้งรวบรวมรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่ากำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

โดยครั้งนี้ได้รวบรวมข้อมูลหุ้นที่คาดว่าผลงานไตรมาส 3/60 จะยังไม่สดใสเป็นหลัก โดยอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของ บล.เอเซีย พลัส ซึ่งได้ที่รวบรวมมาทั้งหมด 5 ตัวด้วยกันคือ ANAN, SNC, BSBM,  DRT และTU

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ต.ค.60) ว่า หุ้นที่แนวโน้มผลกำไรไตรมาส 3/60 หดตัวทั้งจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน บางหุ้นแนะนำ switch ไปก่อน

สัปดาห์นี้ หุ้นในภาค real sector จะทยอยรายงานงบไตรมาส 3/60 ซึ่งฝ่ายวิจัยยังคงทยอยจัดทำ Earning Preview ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้จับตากระแสเก็งกำไรในหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 3/60 โดดเด่น อาทิ QH, IRPC, PTTGC, BANPU, BCH รวมทั้ง VGI, PLANB, ADVANC ,GFPT, SYNTEC, SAT และTMT

ในทางตรงข้ามก็มีหุ้นที่คาดการณ์ผลประกอบการชะลอตัวลงทั้งจากไตรมาสก่อนและจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อาทิ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN (ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท) คาดผลประกอบการหดตัวจากรายได้ขายอสังหาฯ ลดลงตามยอดโอนฯ ที่ยังมีน้อย รวมทั้งค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้น และมีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไตรมาส 4/60 จะสูงสุดทั้งยอดโอนฯและกำไร แรงขับเคลื่อนจากคอนโดฯ ใหม่ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คาดกำไรปกติปีนี้เติบโตกว่า 20% จึงยังแนะนำ ซื้อ

อีกทั้งบริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC (ราคาเป้าหมาย16.20 บาท) การแข่งขันด้านราคาในส่วนของชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า กดดัน Gross Margin ลดลง รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น ขณะที่ไตรมาส 4/60 น่าจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ทรงตัวจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนจากการมี order เข้ามาใหม่ ราคาหุ้นมี upside จำกัด จึงแนะนำ switch ไปก่อน

ขณะเดียวกัน บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) หรือ BSBM (ราคาเป้าหมาย 1.74 บาท) ผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น กดดันต่อ Metal Spread หักล้างผลบวกจากราคาเหล็กเส้นในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ไตรมาส 4/60 ผลการดำเนินงานน่าจะเติบโตจากไตรมาสก่อน แต่ไม่โดดเด่นมากนัก แต่ด้วย Valuation ที่ถือว่าไม่แพง ราคาหุ้นต่ำกว่า Book Value ปี 60 รวมทั้งเป็นหุ้นจ่ายปันผลสูง 5.6% จึงแนะนำซื้อเมื่อราคาย่อตัว

นอกจากนี้ยังมีบริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT (ราคาเป้าหมาย 6.20) ช่วงไตรมาส 3/60 ถือเป็น Low Season ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด ทำให้อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างไม่สดใส ขณะที่ไตรมาส 4/60 คาดทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่เติบโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตาม DRT ยังมีจุดเด่นที่เงินปันผลสูงถึง 6% รวมถึงโอกาสรับรู้กำไรพิเศษจากการขายที่ดิน ซึ่งไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ จึงคงคำแนะนำ ซื้อ

อีกทั้ง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU (ราคาเป้าหมาย 21 บาท) ผลจากราคาต้นทุนวัตถุดิบทูน่าปรับตัวสูงขึ้นกดดันธุรกิจทูน่ากระป๋องที่เป็นแบรนด์ในยุโรปให้อ่อนตัวลง ส่วนคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/60 ยังคงอ่อนตัวลง เนื่องจากเป็นช่วง low season ของการส่งออกทูน่าและกุ้ง นอกจากนี้ ยังคาดราคาต้นทุนวัตถุดิบปลาทูน่าเฉลี่ยงวดไตรมาส 4/60 ทรงตัวสูงต่อเนื่องจากงวด ไตรมาส 3/60 จึงยังแนะนำ switch

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน