คัด 22 หุ้นหลุมหลบภัย! ก่อน SET ปรับฐาน ชูยีลด์สูง-ปันผลเด่น 5 ปีย้อนหลัง

ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเดินเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 61 ขณะเดียวกันหุ้นขนาดใหญ่นำโดย แบงก์ พลังงาน ซึ่งปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงและทำนิวไฮต่อเนื่อง ส่งผลให้นักวิเคราะห์มองว่าตลาดมีแนวโน้มปรับพักตัวจากแรงขายทำกำไรสำหรับหุ้นที่เริ่มมีอัพไซด์จำกัด


ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเดินเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 61 ขณะเดียวกันหุ้นขนาดใหญ่นำโดย แบงก์ พลังงาน ซึ่งปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงและทำนิวไฮต่อเนื่อง ส่งผลให้นักวิเคราะห์มองว่าตลาดมีแนวโน้มปรับพักตัวจากแรงขายทำกำไรสำหรับหุ้นที่เริ่มมีอัพไซด์จำกัด ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์คาดจะทยอยรายงานงบฯช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. นี้ จึงอาจต้องระมัดระวังการเกิด sell on fact ในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ รวมถึงอาจเห็นแรงขาย LTF ที่ครบ 5 ปีปฏิทิน

ดังนั้น“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”จึงจัดกลยุทธิ์การลงทุนเพื่อเตรียมรับมือกับภาวะตลาดดังกล่าว เพื่อเป็นหลุมหลบภัยให้กับนักลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงกับภาวะดังกล่าว โดยกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจและนักวิเคราะห์ให้ความเป็นในทิศทางเดียวกันนั้นก็คือ การเลือกลงทุนในหุ้นปันผลเด่นในรอบ 5 ปี ย้อนหลัง ซึ่งมีทั้งหุ้นกลุ่ม Big Cap High Yield และ Mid-Small Cap High Yield ซึ่งจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.6% ซึ่งนักลงทุนควรจะซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน และขายทำกำไรในวันขึ้น XD

โดยหุ้นปันผลที่คัดเลือกมาในครั้งนี้ได้รวบรวมข้อมูลมาจากบล.เอเซีย พลัส และ บล.โนมูระ พัฒนสิน ซึ่งหุ้นที่แนะนำ อาทิ SIRI,IFS,TMT,IRPC,TASCO, MAJOR,SENA,ASK,AIT,TK, MCS,BCP, PSH,PTTGC,INTUCH,ADVANC, KKP,TISCO,SC,NYT,BLAND,PM

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  SET ทำจุดสูงสุดใหม่ 1,830 จุด ด้วยแรงหนุนหุ้นปิโตรเลี่ยม (น้ำมัน/ถ่านหิน) และตลาดน่าจะเป็นอย่างนี้อีก เพราะปัจจัยรอบด้านหนุนน้ำมันดิบโลกแตะ 70 เหรียญฯ ขณะที่การรายงานงบธนาคารพาณิชย์ งวดไตรมาส 4/60 อาจเห็นแรงขายรับงบ

โดย TISCO เป็นธนาคารพาณิชย์ แห่งแรกที่รายงานงบฯ ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วานนี้มีการรายงานงบของกลุ่มฯ เพิ่มเติม คือ LHBANK ทำกำไรสุทธิ ไตรมาส 4/60 ได้สูงกว่าคาดที่ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 16.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยปัจจัยหนุนมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่เติบโต เช่นเดียวกับรายได้ค่าธรรมเนียมฯ และรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ลดลงตามสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมสิ้น ณ ไตรมาส 4/60 ที่ลดลง

อย่างไรก็ตามกลุ่มสินเชื่อรายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากลูกค้ากลุ่มไต้หวัน  กดดัน NIM ในงวดนี้ โดยรวมกำไรสุทธิปี 2560 อยู่ที่ 2,629 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 2.5%

ขณะที่ธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นๆ คาดจะทยอยรายงานงบฯช่วงวันที่ 17-19 ม.ค. นี้ จึงอาจต้องระมัดระวังการเกิด sell on fact ในหุ้นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่ราคาหุ้นเกิน Fair Value ไปแล้ว หรือมี upside จำกัด เช่น BBL, BAY, KTB, KBANK, TMB จึงแนะนำให้รอราคาปรับฐานหลังการรายงานงบฯ เสร็จสิ้น

นอกจากนี้การที่ SET Index ปรับขึ้นแรงและเร็วเกินไป อาจทำให้เห็นการขายทำกำไรออกมาได้ทุกเมื่อ นักลงทุนจึงควรทยอยขายทำกำไร หรือหลีกเลี่ยงหุ้นที่ราคาเกิน Fair Value ไปแล้ว เช่น KCE, SAPPE, JAS, TVO, PCSGH, IHL,TRUE, LANNA, ICHI,TU,GPSC,EA,GCAP  และควรพักเงินในหุ้นปันผล โดยนับจากต้นปี 60 ถึงปัจจุบัน SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรง และเกินดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 61 ที่ ASPS  ประมาณการไว้ คือ 1815 จุด  ซึ่งทำให้มีโอกาสเผชิญกับแรงขายทำกำไร  รวมถึงอาจเห็นแรงขายรับงบไตรมาส 4/60 กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์  และแรงขาย LTF ที่ครบ 5 ปีปฏิทิน

ดังนั้นหุ้นปันผลถือเป็นหลุมหลบภัยที่ดีในสภาวะตลาดเช่นนี้ โดยเฉพาะภายหลังการประกาศงบการเงินงวดปี 2560 เสร็จสิ้นลง จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการประกาศจ่ายเงินปันผล สำหรับปีดำเนินงานที่ผ่านมา หรือ 2H60 และจากการศึกษาข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี พบว่าในเดือน ก.พ. และ มี.ค. ดัชนี SETHD TRI (ดัชนีหุ้นปันผลสูงที่มีการบวกเงินปันผลจ่ายกลับเข้ามา) มักจะผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 2.88% และ 2.94% ตามลำดับ  ซึ่งสูงกว่า  SET TRI  ให้ผลตอบแทนเพียง 0.80% และ 1.18% เท่านั้น

และหากต้องการคัดกรองหุ้นที่จ่ายเงินปันผลเด่นโดยการศึกษาเชิงปริมาณ  พบว่า หุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลเด่น 5 ปีย้อนหลัง  พบว่าหุ้นที่ให้ผลตอบบวก ในช่วงก่อนการประกาศจ่ายปันผลสม่ำเสมอ จะเป็นช่วงก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.6% ด้วยโอกาสที่จะเกิดขึ้นกว่า 77.3% แต่พบว่ายิ่งซื้อหุ้นปันผล ใกล้วันขึ้น XD มากเท่าใด ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนลดน้อยลงเป็นลำดับ และหากคัดกรองรายหุ้น ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง และมีการจ่ายสม่ำเสมอทุกปี พร้อมมีคำแนะนำ  “ซื้อ” ควรจะซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน และขายทำกำไรในวันขึ้น XD

โดยเรียงลำดับหุ้นที่ผลตอบแทนสูงเกินค่าเฉลี่ย (capital gain) คือ SIRI ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 21.6% ตามมาด้วย IFS 17.3%, TMT 15.6%, IRPC 16.0%, TASCO 15.5%, MAJOR 12.4%, SENA 12.3%, ASK 11.8%, AIT 10.3%, TK 9.5%, MCS 9.4%, BCP 8.8%, PSH 8.6%, PTTGC 8.5%, INTUCH 7.9% และ ADVANC 7.7%

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำสะสมหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง พร้อมทั้งรับเงินปันผลสูง และ ราคามักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD เสมอ  เลือก  SIRI, TMT, INTUCH, TASCO และ MAJOR เป็น Top picks

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดตลาด “Sideway” ต้าน 1830/1834จุด รับ 1813/1804จุด Trump จะยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) แต่ผู้พิพากษาศาลรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า การกระทำนั้นผิดต่อหลักกฎหมาย ซึ่งความเห็นที่ขัดแย้งกัน ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อการเจรจาเพดานหนี้ภายใน 19 ม.ค.นี้อาจไม่สำเร็จ กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แต่แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยครม.เห็นชอบเพิ่มงบกลางปี 1.5 แสนลบ.กระตุ้นฐานราก

ส่วนธีมการลงทุนแนะนำ Dividend 2H17 Play หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังปี 60 สูงกว่า 3.0%   และ พื้นฐานดี และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตดี แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2 เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% โดย Big Cap High Yield เลือก KKP, TISCO, SC, IRPC และ Mid-Small Cap High Yield แนะนำ NYT, BLAND, PM

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button