TNR รุกขยายตลาดเต็มพิกัดหวังโกยยอดขายเข้าเป้า 20% โบรกฯ ฟันธงกำไรปี 61 พุ่งแรง 60%
TNR เดินหน้ารุกขยายตลาดเต็มพิกัดทั้งใน-ต่างประเทศ หวังโกยยอดขายเข้าเป้า 20% ฟากโบรกฯ ฟันธงกำไรปี 61 พุ่งแรง 60% ตามแผนธุรกิจ พร้อมเชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้า 22.20 บาท
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR หลังเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/60 และงวดปี 60 ของบริษัทจดทะเบียน โดยนักวิเคราะห์มีการคาดการณ์ว่ากำไรของ TNR ในงวดปี 60 มีแนวโน้มลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะกลับมาโตอย่างโดดเด่นในปี 61 เนื่องจาก TNR มีแผนในการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาถุงยางอนามัยรุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
โดยราคาหุ้น TNR ปิดตลาดวานนี้ (12 ก.พ.61) อยู่ที่ระดับ 16.90 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.59% สูงสุดที่ระดับ 17.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.69 พันล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น TNR ในราคาเป้าหมายที่ 22.20 บาทต่อหุ้น แม้มีการคาดการณ์ว่ากำไรปี 60 ของ TNR จะปรับตัวลดลง 16.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในปี 61 จะพลิกกลับมาโต 58.9% จากแผนการขยายฐานลูกค้าในธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ในต่างประเทศ และแผนเพิ่มสัดส่วนยอดขายของกลุ่มธุรกิจสินค้า Own Brand ทั้ง ONETOUCH และ Niptex + ราคาหุ้นยังมี Upside 44.5% และคาดให้ Div.Yield จากผลการดำเนินงานปี 60 ที่ 1.4%
ขณะที่ นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TNR ระบุว่า ภาพรวมการดำเนินงานปี 60 บริษัทมั่นใจจะสามารถทำยอดขายได้ดีกว่าปี 59 แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาเงินบาทแข็งค่า แต่ยอดขายสินค้าในไทยจากการผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยแบรนด์ ONETOUCH (TM) ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีจากทั้งมูลค่าและปริมาณ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 24.3% เมื่อเทียบกับงวดปี 2559 ที่อยู่ระดับ 21.4%
ทั้งนี้ ในปี 61 บริษัทตั้งเป้าทำยอดขายเติบโต 20% จากฐานงวดปี 60 ที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากแผนงานธุรกิจบริษัทที่รุกเพิ่มยอดขายถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นทั้งในไทยและต่างประเทศ ประกอบกับล่าสุดส่วนแบ่งทางการตลาดถุงยางอนามัยแบรนด์ ONETOUCH (TM) ในไทยงวดปี 60 ยังเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 24.3%
นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนและการสต๊อกสินค้า โดยได้ลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในภาคการผลิตและทดแทนการใช้แรงงาน รวมถึงทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำยางพาราล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่อาจผันผวน
ขณะเดียวกัน นายกัณห์ กุลอัฐภิญญา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด TNR เปิดเผยว่า แผนทำตลาดถุงยางอนามัยในปีนี้ จะพัฒนาถุงยางอนามัยรุ่นใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น และเป็นสินค้าหัวหอกช่วยขยายตลาดออนไลน์ และเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์สินค้ามากขึ้น
โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์ ONETOUCH (TM) รุ่นพิเศษเอาใจชาวมิลเลนเนียลอย่าง “ONETOUCH ONE : Sweet Romance” หอมกลิ่น วานิลา-แคนดี้ รับเทศกาลวาเลนไทน์ ชูแพ็กเก็จจิ้งใหม่แบบซองฟอล์ยทรงกลม บรรจุ 12 ชิ้นในกระป๋องดีไซน์พิเศษครั้งแรกในไทย
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกในวงการตลาดถุงยางอนามัยประเทศไทยที่มีดีไซน์บรรจุภัณฑ์แบบกระป๋อง โดยจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทางเว็บไซต์ต่างๆ อาทิเช่น Shopee, 11street, Lazada รวมถึงจัดกิจกรรมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสื่อสารข้อมูลผลิตภัณฑ์และจุดเด่นถึงกลุ่มเป้าหมาย
“เรามั่นใจว่าดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่พิเศษไม่ซ้ำใครจะสร้างความแปลกใหม่และกระตุ้นผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ทั้งที่เคยใช้และไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัย ONETOUCH (TM) มาก่อน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำหรือทดลองใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ” นายกัณห์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 61 จะผลักดันการเติบโตของยอดขายถุงยางอนามัยแบรนด์ ONETOUCH (TM) และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในประเทศหลังจากปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการทำตลาดเป็นที่น่าพอใจ สามารถผลักดันให้เกิดการเติบโตที่ดีในแง่ของมูลค่าการขายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นเป็น 24.3% แม้ว่าโดยภาพรวมตลาดถุงยางอนามัยในประเทศปีที่ผ่านมาตามข้อมูลรายงานของนีลเส็น (Nielsen) จะชะลอตัวลงก็ตาม