III แย้มผลงาน Q1/61 โตแจ่ม โบรกฯ วางเป้าสูงอัพไซด์พุ่งปรี๊ด

สืบเนื่องจากบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ iii ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 60 มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 45% มาที่ 129.64 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 89.43 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมปี 60 เท่ากับ 1.86 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น

ส่วนกำไรขั้นต้นปี 60 เท่ากับ 320.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 79.20 ล้านบาท หรือ 32.80% สอดคล้องกับรายได้ของกลุ่มธุรกิจเติบโตขึ้น ทำให้การบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทฯมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้สำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น III เพิ่มเติม พบว่า ผู้บริหารคาดผลงานในช่วงไตรมาส 1/61 จากดีกว่าผลงานในช่วงไตรมาส 1/60 และยังในปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ เพื่อเข้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) หรืออาจเป็นการเข้าร่วมลงทุน (JV) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

โดย นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร iii เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/61 นี้ บริษัทฯคาดว่าจะออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการรับรู้รายได้เข้ามาของธุรกิจคลังสินค้าระหว่างประเทศ (International Air Cargo Terminal) สนามบินดอนเมือง โดยได้เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือน ม.ค.61 ด้วยพื้นที่ให้บริการขนาด 5,000 ตารางเมตร ที่ได้รับสัมปทานจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80%

ทั้งนี้ธุรกิจคลังสินค้าทางอากาศดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างธุรกิจแอร์ คาร์โก ของบริษัทเนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตสูง จากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงคาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนที่ระดับ 5.6% โดยเป็นการเติบโตตามการขยายธุรกิจด้านการขนส่งทางอากาศที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างดี

ประกอบกับธุรกิจการขนส่งทางทะเลเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนเพียงรายเดียวในประเทศไทยของสายการเดินเรือ ริเชา (Rizhao Shipping Lines) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจของเมืองริเชา อยู่ในมณฑลซานตง ทางตอนเหนือของประเทศจีน โดยเริ่มแรกมีเส้นทางการให้บริการครอบคลุม ในประเทศจีน (ริเชา เซี่ยงไฮ้) เวียดนาม (โฮจิมินห์) และไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย) ถือเป็นช่องทางขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าลงทุนซื้อกิจการ (M&A) หรืออาจเป็นการเข้าร่วมลงทุน (JV) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อต่อยอดธุรกิจเดิมรองรับการลงทุนในปี 61-62 โดยในปัจจุบันบริษัทเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศ 3-4 ราย ได้แก่ สิงคโปร์, เวียดนาม และกัมพูชา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” III ให้ราคาเป้าหมาย 10.50 บาทต่อหุ้น (อิง P/E 35 เท่า เทียบเคียงค่าเฉลี่ยของ JWD และ WICE) โดยคาดว่ากำไรของบริษัทในอนาคตจะเติบโตได้อย่างน่าประทับใจ เนื่องจากปัญหาในปีที่ผ่านมาได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 1) การได้สายการเดินเรือริเชา เข้ามาเป็นพันธมิตร 2) การเปิดคลังสินค้าที่ดอนเมือง และ 3) การขยายเที่ยวบินของ Air Asia และ Air Asia X หลังจากที่ ICAO ปลดธงแดง

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” III ให้ราคาเป้าหมาย 9.80 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทเป็นตัวแทนขายระวางแบบผูกขาดสำหรับ Thai AirAsia และ Thai AirAsia X โดยมีสัญญาที่ควรจะครอบคลุมการเติบโตของรายได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ด้านคลังสินค้าระหว่างประเทศที่ดอนเมืองจะเป็นปัจจัยผลักดันรายได้และกำไรขั้นต้นใน ปี61-62 จึงคาดว่าธุรกิจการขนส่งเคมีภัณฑ์ซึ่งต้องการความเชี่ยวชาญสูง จะมีการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งในปี60-62 เนื่องจากอุปสงค์การใช้บริการคลังสินค้าเคมีภัณฑ์ที่เติบโตจากบริษัทข้ามชาติ

สำหรับราคาหุ้น III ปิดตลาดวานนี้ (21 ก.พ.) อยู่ที่ 8.75 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.57% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60.81 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 10.50 บาท ที่ 20%