ดักเก็บ RJH ลุ้นกำไรปี 61 โตแจ่ม แถมโบรกฯ อัพเป้าใหม่ 37 บ.

ดักเก็บ RJH ลุ้นกำไรปี 61 โตแจ่มหลังเข้าถือหุ้น RRH เพิ่มเป็น 100% ฟากโบรกฯ อัพเป้าใหม่ 37 บ. จากเป้าเดิม 35 บาท


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH พบว่านักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับตัวบริษัท พร้อมมีการประมาณการกำไรสุทธิในปี 2561 เพิ่มขึ้น 4% หลังจากที่บริษัทประกาศเข้าถือหุ้น RHH เพิ่มอีก 46% รวมถือ 100% นอกจากนียังมีการอัพราคาเป้าหมายเป็น 37 บาทต่อหุ้น จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 35 บาทต่อหุ้น

ขณะราคาหุ้น RJH ปิดตลาดวานนี้ (7 มี.ค.61) อยู่ที่ระดับ 25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง สูงสุดที่ระดับ 25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2.82 ล้านบาท

โดยนายแพทย์วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทคาดรายได้ปี 2561 จะเติบโต 10-15% จากงวดปี 2560 เนื่องจากได้รับผลบวกกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ปรับเพิ่มค่ารักษาเหมาจ่าย และในปัจจุบันทางบริษัทมีลูกค้าประกันสังคมอยู่ที่ 156,000 คน และโรงพยาบาลราชธานี โรจนะมีลูกค้าประกันสังคมอยู่ที่ 12,000 คน

นอกจากนี้ ทางบริษัทเองได้ตั้งงบลงทุนในปี 2561-2563 ไว้ที่ระดับ 660 ล้านบาท เพื่อจะนำไปใช้ในการเปิดศูนย์บริการตรวจวินิจฉัยโรคด้วยการสร้างภาพเหมือนจริงด้วยเครื่อง Magnetic Rasonance Imaging (MRI) จำนวน 20 ล้านบาท ภายในช่วงปี 2561

อีกทั้งยังใช้ในการเปิดศูนย์ไตเทียมจำนวน 40 ล้านบาท ซึ่งคาดจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2562 รวมทั้งดำเนินการลงทุนก่อสร้างตึกผู้ป่วย 9 ชั้น จำนวน 600 ล้านบาท ภายในช่วงปลายปี 2562 โดยพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563 จำนวน 60 เตียง และเปิดเพิ่มเติมในอนาคตหากมีความต้องการมากขึ้น

สำหรับรายได้ปี 2560 บริษัทมั่นใจจะเติบโต 10-15% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 1,224 ล้านบาท เนื่องจากมีจำนวนลูกค้าใช้บริการมากขึ้น ประกอบกับโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ ที่เป็นบริษัทย่อย ขณะนี้เริ่มพลิกกลับมามีกำไรแล้วและยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง

ขณะที่การเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาล (M&A) บริษัทจะเน้นไปที่โรงพยาบาลในภาคกลางตอนบน ซึ่งมีคู่แข่งน้อยว่าภาคกลางตอนล่าง ซึ่งจะเป็นลักษณะโรงพยาบาลท้องถิ่น แต่ยังไม่สามารถระบุความชัดเจนได้ในขณะนี้ และบริษัทยังมีความพร้อมในการลงทุน เนื่องจากมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.15 เท่า ทำให้ยังสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้อีกในกรณีที่มีการลงทุนในอนาคต

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังวางแผนจะเพิ่มลูกค้าประเภทตรวจสุขภาพ (Check up) ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดยภายในปี 2561 ตั้งเป้ามีลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมอยู่ที่ 200 ราย เนื่องจากยังมีช่องทางในการเติบโตได้ และยังช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

“ปีหน้าเรามองรายได้โต 10-15% เพราะได้รับผลบวกจาก สปส. และโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังได้ตั้งงบลงทุนจำนวน 660 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์ MRI ศูนย์ไตเทียม และก่อสร้างตึกผู้ป่วย 9 ชั้น เพื่อเสริมการเติบโตในอนาคต” นายแพทย์วชิระ กล่าว

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” ในราคาพื้นฐาน 35 บาท โดยมองว่าผลประกอบการเติบโตใกล้เคียงกับที่ทางฝ่ายคาด หากในปี 61 คาดกำไรจะโตต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าอีกราว 20.7% ที่ 279 ลบ. หลักๆ จากการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าเงินสด จากเข้ารุกตลาด Check up ใหม่ จากเพิ่มจำนวนเตียง, การขยายศูนย์บริการและศูนย์แพทย์เฉพาะทางต่างๆ และจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ประกันตนและจากปรับขึ้นค่ารักษาประกันสังคมใหม่ (จะรับรู้เข้ามาเต็มปี)

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า RJH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/60 ได้ดีกว่าตลาดคาด โดยเป็นการเติบโตมาจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากการปรับค่าบริการของ สปส. และจำนวนคนไข้เงินสดเพิ่มขึ้น รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง สำหรับภาพรวมทั้งปี 2560 มีกำไรสุทธิ 231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนปี 2561 มีการปรับกำไรสุทธิขึ้น 4% จากประกาศเข้าถือหุ้น RRH เพิ่มอีก 46% เป็นถือ 100% ซึ่งมองเป็นบวก เนื่องจาก RRH มีผลการดำเนินงานดี โดยปี 2560 มีกำไรปกติที่ 27 ล้านบาท ซึ่งเราคาดปี 2561 จะมีกำไรปกติ (สุทธิ) 40 ล้านบาท เติบโต 48% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นการเข้าถือหุ้นเพิ่มจะทำให้กำไรปกติของ RJH ในปี 2561 เติบโตได้ 21% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ เราได้ปรับราคาเป้าหมายปี 2561 ขึ้นเป็น 37.00 บาท (เดิม 35.50 บาท) และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button