4 โบรกฯ แท็กทีมฟันธง AMATA ปี 61 กำไรงาม ชูท็อปพิคกลุ่มพ่วง P/E ต่ำ
4 โบรกฯ แท็กทีมฟันธง AMATA ปี 61 กำไรงาม รับอานิสงส์นโยบาย EEC ผ่านฉลุย-ยอดขายที่ดินพุ่ง พร้อมชูท็อปพิคกลุ่มพ่วง P/E ต่ำ ลุ้นราคาวิ่งต่อ อัพไซด์สูงลิ่ว!
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA หลังพบว่าราคาหุ้นเริ่มกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 26.75 บาท เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2561 โดยวานนี้ (12 มี.ค.) ปิดตลาดที่ 22.30 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 1.83% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 379.69 ล้านบาท ทั้งนี้ยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 30 บาท อยู่ 35%
นอกจากนี้เมื่อสำรวจค่า P/E ของ AMATA จากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 9 มี.ค.2561 พบว่า ค่า P/E อยู่ที่ 16.58 เท่า ต่ำกว่าค่า P/E ของกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ที่ 17.04 เท่า และยังต่ำกว่าค่า P/E ของ SET ซึ่งอยู่ที่ 18.27 เท่า
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ผลการดำเนินงานในช่วงปี 61 ของ AMATA มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งรับอานิสงส์ความคืบหน้าโครงการ EEC และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น หลังโรงไฟฟ้าอีก 3 แห่งเริ่มเปิดดำเนินการส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 60% เทียบจากปีก่อน ขณะเดียวกันสัญญาณเทคนิคมีโอกาสรีบาวด์ ซึ่งเป็นโอกาสในการเก็งกำไรระยะสั้น
โดย นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อลงทุน AMATA ระยะยาว ราคาเป้ามาย 30 บาทต่อหุ้น โดยมองว่า จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยองเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการต่อยอดอุตสาหกรรม First S-curve และ New S-curve ซึ่งสะท้อนมายังยอดขอ BOI ในชลบุรีและระยองที่เพิ่มเป็น 60% จาก 45% ของพื้นที่ทั้งหมด นับตั้งแต่รัฐฯเห็นชอบ EEC 2 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ AMATA ที่มีพื้นที่พร้อมขายในชลบุรีและระยอง 1.4 หมื่นไร่ และมีรายได้ประจำจากค่าน้ำค่าไฟที่อีก 40% ของรายได้รวม อีกทั้ง มีนิคมฯในเวียดนามตอนใต้และกำลังขอไลเซนส์ที่ตอนเหนือ ด้วยประสบการณ์ที่สูงจึงมองว่ามีโอกาสขยายไปลาวและเมียนมาร์ เพื่อยกระดับการเติบโตในอนาคต
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย AMATA ที่ 28.7 บาทต่อหุ้น โดยคาดกำไรปี 61 เติบโต 35% เทียบจากปีก่อน ที่ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งคาดยอดขายที่ดินในปี 61 จะสูงถึง 925 ไร่ สูงกว่าปี 60 มาก (ปี 60 ขาย 431 ไร่)
รวมทั้งมี Recurring Income ที่เติบโตขึ้นจากการ COD โรงไฟฟ้า จะกลับสู่รอบการเติบโตโดดเด่นอีกครั้งช่วง 2 ปีข้างหน้า (ปี 61-62) โตเฉลี่ย 41.6% ต่อปี โดยนโยบาย EEC ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ต่อพื้นฐานบริษัท ซึ่ง AMATA เป็นบริษัทที่มียอดขายที่ดินฟื้นตัวมากที่สุดในกลุ่มและเป็นผู้มีแนวโน้มได้ประโยชน์จาก EEC มากที่สุด ล่าสุด เตรียมร่วมลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับผู้ประกอบการจีน ในพื้นที่ EEC คาดมีความชัดเจนอีก 3 เดือนข้างหน้า เป็น Upside Risk ต่อประมาณการ
ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซื้อขายที่ระดับ PER ปี 61 ที่ 12 เท่าต่ำกว่า WHA ซื้อระดับ 18 เท่า
ส่วน นักวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ AMATA ให้ราคาเป้าหมายที่ 26 บาทต่อหุ้น โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ขึ้นจากเดิม 4% มาอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (โต 31% เทียบจากปีก่อน)
โดยนอกเหนือจากการคาดหมายถึงการเติบโตของรายได้จากการขยายที่ดินที่คาดว่าจะมีการโอนเข้ามาประมาณ 500 ไร่แล้วบริษัทจะยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคและค่าเช่าโรงงานที่จะเพิ่มขึ้น 10% เทียบจากปีก่อน
นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 17% เทียบจากปีก่อน หลังโรงไฟฟ้าอีก 3 แห่งเริ่มเปิดดำเนินการจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 60% เทียบจากปีก่อน
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ เลือก AMATA เป็นหุ้น Top Pick และให้ราคาเป้าหมายที่ 24 บาทต่อหุ้น โดย AMATA น่าจะขายที่ดินได้มากขึ้นรวมไปถึงได้ประโยชน์จากการับมูลค่าที่ดินในพื้นที่ที่อยู่ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษของนิคมทั้งสองแห่ง
นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำอย่าง ธุรกิจน้ำ โรงงานให้เช่าและโรงไฟฟ้า และแผนการขยายไปต่างประเทศยังมีโอกาสเพิ่มการลงทุนในประเทศพม่าต่อเนื่องจากประเทศเวียดนาม
รวมถึง นักวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มองว่าหุ้น AMATA ลงมาทดสอบแนวรับสำคัญแล้วเกิดการรีบาวด์ กราฟ 240 นาที เห็นสัญญาณเชิงบวกอย่างการพลิกกลับของ %K ที่กลับมายืนเหนือ %D บน Modified Stochastic ประกอบกับสัญญาณ MACD พลิกกลับตัดเส้น Signal ขึ้นมา
ดังนั้นจึงมองว่า AMATA จะดีดตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าหมายของการวิ่งทดสอบกรอบบนของ Dowtrend Channel ที่ 25.30 บาท โดยมีแนวรับ 21.40 บาท ทั้งนี้หากหลุด 21.00 บาท ให้ Stop Loss ถือว่ายังมี Upside อยู่ค่อนข้างมาก น่าจับตามองทั้งนักเก็งกำไรระยะสั้น และนักลงทุนเล่นรอบเลยทีเดียว