GUNKUL เปิดแผนทุ่มพันลบ.ซื้อหุ้นคืน โบรกฯ เชียร์ซื้อ การันตีกำไรปีนี้ยังโตแกร่ง
GUNKUL เปิดแผนเรียกศรัทธา! ทุ่มพันล.ซื้อหุ้นคืน หลังราคาหุ้นร่วงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ฟาก โบรกฯ เชียร์ซื้อ การันตีกำไรปีนี้ยังโตแกร่ง วางเป้าสูง อัพไซด์พุ่งปรี๊ด
สืบเนื่องจาก บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ประกาศว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติโครงซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน โดยจะใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นสัดส่วน 4.04% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.-22 ต.ค.61
โดย นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ ประธานกรรมการบริหาร GUNKUL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทประเมินแล้วว่า ณ จุดนี้ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท ซึ่งเป็นผลจากภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผันผวน เนื่องจากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบหลายด้าน ทำให้หุ้นกลุ่มหลัก รวมถึงหุ้นของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ดังนั้นบริษัทจึงตัดสินใจเข้าโครงการซื้อหุ้นคืน โดยจะใช้เงินทั้งหมดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งการทำ Treasury Stock ครั้งนี้ บริษัทจะใช้เงินจากสภาพคล่องส่วนเกินซึ่งจะไม่มีผลกระทบกับการเงินของบริษัทแต่อย่างใด
“นอกจากจะทำให้อัตราส่วนทางการเงินดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการแสดงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทฯ ขอให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนมั่นใจว่า บอร์ดบริษัทฯ และฝ่ายบริหารไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมที่จะเข้าดูแลด้วยกลไกที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุกประการ”นางสาวโศภชา กล่าว
ทั้งนี้บริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจพลังงานทดแทนที่บริษัทดำเนินการอยู่ ที่ผ่านมาธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหางานใหม่ๆ เพิ่ม ทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์ม รวมถึงพลังงานลม ขณะนี้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวมกันแล้วทั้งสิ้น 520 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้จ่ายไฟเข้าระบบไปแล้วรวม 232 เมกะวัตต์ โดยบริษัทยังคงเป้าหมายที่จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ครบ 1,000 เมกะวัตต์ในปี 63
โดยหลังจากที่บริษัทประกาศแผนซื้อหุ้นคืนแล้วนั้นส่งผลให้ราคาหุ้น GUNKUL ปรับตัวขึ้นแรง หลังจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.22 บาท เมื่อวันที่ 17 ม.ค.61 จนกระทั่งปิดตลาดวานนี้ ( 11 เม.ย.) ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ บาท บวก หรือ % ด้วยมูลค่าซื้อขาย ล้านบาท อีกทั้งยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 4.90 บ. อยู่ %
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้น GUNKUL ให้ราคาเป้าหมายที่ 3.50 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการพลังงานลม ผนวกกับแผนการซื้อหุ้นคืนคาดเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น ขณะที่ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกินไป
ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “Outperform” หุ้น GUNKUL พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 4.90 บาทต่อหุ้น ประเมินมูลค่าธุรกิจโรงไฟฟ้าโดยวิธี DCF และประเมินมูลค่าธุรกิจการค้าโดยใช้ PER ซึ่งจาก นอกจากนี้ยังคาดว่ากำไรของ GUNKUL ในปี 61 จะเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับหุ้นพลังงานหมุนเวียนตัวอื่น เนื่องจากการเริ่มเปิดดำเนินการโครงการ GNP และ KWE
ทั้งนี้ถึงแม้ว่ารายได้จากการก่อสร้างจะมีแนวโน้มลดลงในอนาคต แต่เชื่อว่าผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโครงการโรงไฟฟ้าจะช่วยชดเชยได้ โดยคาดว่ารายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าจะเติบโตถึง 43% CAGR ในช่วงปี 61-63 ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็น 61.8-76.4% จาก 32.2% ในปี 60 ขณะที่คาดว่ารายได้จากการค้าจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณปีละ 1.2-1.3 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังคาดว่ารายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจะช่วยหนุนให้กำไรโตได้ถึง 48.6% CAGR ในช่วงปี 61-63 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่มพลังงานหมุนเวียน (BCPG น่าจะโต 13.8% และ TPCH น่าจะโต 46.9%)
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทสิเคราะห์ มองว่าแนวโน้มผลประกอบการของ GUNKUL จะยังคงเติบโตเทียบจากปีก่อน ด้วยการทยอยพัฒนาและเริ่มจ่ายไฟโครงการในมือราว 500 MW ให้ครบภายใน 3-4 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดีการชะลอแผนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนของภาครัฐ อาจทำให้ Outlook การเติบโตของ GUNKUL และผู้เล่นอื่นในกลุ่มพลังงานทดแทนนับจากนี้ อาจไม่สดใสเช่นในอดีต ส่วนการลงทุนโครงการใหม่ในต่างประเทศยังคงมีความไม่แน่นอนและคาดหวังได้ยาก
ด้านเทคนิคราคาหุ้นปรับลงแรงพร้อมวอลุ่มที่มาก ดังนั้นอาจต่อรองราคาได้อีก โดยแนวรับถัดไปบริเวณ 2.4 บาท