ลุ้น PLANB กำไร Q2 โตต่อ รับไฮซีซั่น แถมโบรกฯ ยังเชียร์ซื้อ เคาะเป้าสูง 8.50 บ.
ลุ้น PLANB กำไร Q2/61 โตต่อ รับไฮซีซั่น แถมโบรกฯ ยังเชียร์ซื้อ เคาะเป้าสูง 8.50 บ. อัพไซด์พุ่งปรี๊ด
เสร็จสิ้นแล้วสำหรับช่วงการรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/61 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ถือว่าเป็น 1 ในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่ตลาดฯ และนักวิเคราะห์ต่างๆ คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก
โดย PLANB ได้รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1/61 มีกำไร 139.11 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 38% จากปีก่อนมีกำไร 100.94 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้รวมเติบโต 16.2% และทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ซึ่งมาจากการเติบโตของสื่อโฆษณาทุกประเภท นอกจากนี้ บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวขึ้นสูง “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ของหุ้น PLANB เพิ่มเติม ซึ่งพบว่า นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันมองกำไรของ PLANB ในช่วงไตรมาส 1/61 ปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้แม้จะเป็นช่วง Low Season ก็ตาม
ดังนั้น จึงมองว่าแนวโน้มว่ากำไรในช่วงไตรมาส 2/61 เป็นต้นไปมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังเข้าสู่ High Season ประกอบกับได้รับอานิสงส์การขยายตัวสื่อนอกบ้าน รวมทั้งรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่นที่มีสิทธิ์ในการโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน
โดย นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLANB ให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาทต่อหุ้น โดย PLANB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/61 ที่ 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เทียบจากปีก่อน และ 58% เทียบจากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นไปตามที่บล.บัวหลวงคาด แต่สูงกว่าที่ตลาดคาด 11%
นอกจากนี้ยังคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 2/61 ของ PLANB จะขยายตัวทั้งเทียบจากปีก่อนและเทียบจากไตรมาสก่อน หนุนโดยการฟืนตัวของเม็ดเงินโฆษณาและรายได้ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการรายได้จากสิทธิประโยชน์ในการบริหารสิทธิ์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัท พรีเมียร์ลีก(ไทยแลนด์) ทั้งนี้โดยปกติไตรมาสแรกจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเม็ดเงินโฆษณา
โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 672 ล้านบาท ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งคาดการขยายตัวของการบริโภคในประเทศและเม็ดเงินโฆษณาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต ถือเป็นสัญญาณอันดีสำหรับกำไรที่เติบโตของ PLANB อัตราการเติบโตของกำไรหลักเฉลี่ยระหว่างปี 2560-2562 อยู่ที่ 23% เทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรหลักเฉลี่ยของตลาดที่เพียง 5% ด้วยแรงหนุนจากอัตราการเช่าใช้สื่อโฆษณาจากสื่อเดิมและสื่อใหม่ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการจากการลงทุนในอนาคตและการเข้าซื้อกิจการ
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLANB ให้ราคาเป้าหมาย 7.80 บาทต่อหุ้น โดย PLANB รายงานกำไรไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้นดีกว่าคาดจากการรับรู้รายได้จากการขยายสื่อในช่วงปีที่ผ่านมา
ส่วนกำไรปกติไตรมาส 1/61 เพิ่มขึ้นทั้งเทียบจากปีก่อนและเทียบจากไตรมาสก่อน จากรับรู้รายได้การขยายสื่อเพิ่มขึ้น PLANB รายงานกำไรไตรมาส 1/61 อยู่ที่ 139 ล้านบาท (โต 58% เทียบจากไตรมาสก่อนและโต 38% เทียบจากปีก่อน) มากกว่าที่บล.ทิสโก้คาดไว้ 10% และมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 12% จากรายได้ทุกสื่อที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสื่อในช่วงที่ผ่านมาทั้งป้ายดิจิทัลใหม่และสื่อในสนามบิน
ขณะที่รายได้ทุกสื่อที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสื่อในช่วงที่ผ่านมา ทั้งป้ายดิจิทัลใหม่และสื่อในสนามบิน โดยอัตราการใช้สื่อเฉลี่ยที่ 68% เพิ่มขึ้นจาก 61% เทียจากปีก่อนและรับรู้รายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์สื่อฟุตบอล
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 34% จาก 32% เทียบจากปีก่อน และ 30% เทียบจากไตรมาสก่อน จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 15% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 16% จาก 15% เทียบจากปีก่อนและ 12% เทียบจากไตรมาสก่อน
ส่วนการขยายสื่อนอกบ้านทั้งในและต่างประเทศยังมีต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทได้ร่วมทุนถือหุ้นในส่วนของสื่อรถไฟฟ้า MRT ถือหุ้น 19.5% กับบริษัท แบงคอกเมโทร เน็ทเวิร์คส์ (BMN) และร่วมทุนสื่อสนามบินกับ WPS Media เพิ่มขึ้นช่วยสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง และยังแผนขยายสื่อผ่านคอนเทนท์อื่นเพิ่มขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จในสื่อคอนเทนท์ Sport Marketing
นอกจากนี้บริษัทยังมองโอกาสขยายสื่อนอกบ้านผ่านพาร์ทเนอร์ที่มีอยู่ในมือแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ฟิลิปปินส์ ลาว มาเลเซีย อินโดนีเซีย ด้วยการเข้าร่วมประมูลขอสัปทานสื่อโฆษณาในประเทศนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับการลงทุนใหญ่มูลค่า 5 พันล้านบาท จากกรณีที่บริษัทประกาศขอการเพิ่มทุนแบบ General Mandate (GM) 30% ของทุนจดทะเบียน คาดว่าจะเป็นบริษัทสื่อโฆษณานอกบ้านในต่างประเทศ ซึ่งจะทราบผลความคืบหน้าภายใน 2-3 เดือนนี้
ดังนั้นจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จาก PLANB ขยายสื่อนอกบ้านครบวงจรต่อเนื่องปีนี้เพิ่มขึ้น 10-15% และยังมองโอกาสในการลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น เราคาดกำไรสุทธิ 3 ปีนี้เติบโตเฉลี่ย 27% ต่อปี (CAGR ปี 61-63) คาดกำไรสุทธิในแต่ละไตรมาสปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีจากสื่อใหม่ที่จะเริ่มเข้ามาไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป
พร้อมด้วย นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PLANB ให้ราคาเป้าหมาย 7.70 บาทต่อหุ้น โดยกำไรสุทธิของ PLANB ในไตรมาส 1/61 อยู่ที่ 139 ล้านบาท (โต 57% เทียบจากไตรมาสก่อนและโต 38% เทียบจากปีก่อน) ดีกว่าประมาณการของบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) 16% และดีกว่า consensus 11%
โดยถึงแม้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/61 จะคิดเป็นแค่ 20% ของประมาณการกำไรทั้งปีของบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แต่อย่างไรก็ตามยังคงประมาณการกำไรสุทธิของ PLANB ในปี 2561 เอาไว้ที่ 680 ล้านบาท และปี 2562 ไว้ที่ 788 ล้านบาท
ทั้งนี้คาดว่ากำไรจะโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากไตรมาส 1 เป็นช่วง Low Season ของอุตสาหกรรมโฆษณา ในขณะที่ไตรมาส 2 เป็นช่วง High Season และบริษัทมีแผนจะเพิ่มจอโฆษณาสื่อดิจิตอลอีก 100 จอภายในปีนี้
ขณะที่การเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่นที่มีสิทธิ์ในการโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน อย่างเช่น บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (มหาชน) (BMN ซึ่งเป็นผู้ดูแลสื่อโฆษณาบน MRT) และ W.P.S Media (ซึ่งดูสื่อโฆษณาในสนามบิน) ตั้งแต่ไตรมาส 1/61 ก็จะช่วยให้ PLANB สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ในทำเลใหม่ได้ง่ายขึ้น
ด้านราคาหุ้น PLANB ปิดตลาดวานนี้ ( 16 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 6.35 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.31% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 13.05 ล้านบาท ทั้งนี้ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 8.50 บาท อยู่ 26%