โบรกฯ แห่อัพเป้า-ประมาณการกำไร BDMS ปี 61 คาดรายได้พุ่งกระฉูด

โบรกฯ แห่อัพราคาเป้า-เพิ่มประมาณการกำไร BDMS ปี 61 สะท้อนมีศักยภาพเติบโตสูงดันรายได้พุ่งกระฉูด


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS หลังบริษัทเตรียมเปิด BDMS Wellness Clinic ศูนย์ดูแลสุขภาพและการป้องกันครบวงจรที่มีคลินิกดูแลสุขภาพรวมกันมากที่สุดถึง 7 คลินิก

โดยนายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด ในเครือ BDMS เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิด BDMS Wellness Clinic ศูนย์ดูแลสุขภาพและการป้องกันครบวงจร ที่มีคลินิกดูแลสุขภาพรวมกันมากที่สุดถึง 7 คลินิก ประกอบด้วย 1) แผนกเวชศาสตร์ชะลอวัยฟื้นฟูสุขภาพ – Regenerative Clinic 2) แผนกป้องกันโรคอัลไซเมอร์และพาร์คินสัน – Neuroscience Clinic

รวมถึง 3) แผนกสร้างเสริมและฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและกระดูก – Musculoskeletal and Sports Clinic 4) แผนกป้องกันดูแลเส้นเลือดหัวใจ – Cardioscience Clinic 5) แผนกสุขภาพทางเดินอาหารและป้องกันมะเร็งลำไส้ – Digestive Wellness Clinic 6) แผนกทันตกรรม – Dental Clinic 7) แผนกสำหรับผู้ต้องการมีบุตร – Fertility Clinic โดยคลินิกทั้งหมดจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดทยอยให้บริการครบในปี 2561

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BDMS ให้ราคาเป้าหมายที่ 29 บาทต่อหุ้น จากแนวโน้มที่สดใส จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติในปีนี้เป็น 9.74 พันล้านบาท โต 21.5% เทียบจากปีก่อน และปีหน้าเป็น 1.09 หมื่นล้านบาท โต 12% เทียบจากปีก่อนเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 9.9% และ 10.5% ตามลำดับ

ส่วนนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BDMS ให้ราคาเป้าหมาย 29 บาทต่อหุ้น จากเดิม 26 บาทต่อหุ้น และเป็น Top Pick ของกลุ่ม โดยบล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 61-63 ของ BDMS ขึ้น 6-8% สะท้อนรายได้และ Margin ที่ดีกว่าคาด

โดยมุมมองการเติบโตของรายได้ไตรมาส 2/61 ยังเห็นการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้นรวมถึงตลาดต่างชาติที่กลับมา นอกจากนี้โครงสร้างไตรมาส 1/61 พบว่ารายได้จากกลุ่มประกันเติบโตอย่างโดดเด่น 24% เทียบจากปีก่อน และมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 29% เทียบกับ 26% ในปี 60 ซึ่งสอดคล้องกับสังคมปัจจุบันที่นิยมทำประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น และถือเป็นเรื่องดีเพราะจะทำให้รายได้ของโรงพยาบาลมั่นคงมากขึ้นเนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ป่วย

รวมทั้ง BDMS ได้จับมือกับพันธมิตรบริษัทประกันออกประกันสุขภาพที่ให้ใช้บริการในเครือ BDMS ซึ่งจะได้สิทธิประโยชน์สูงกว่าโรงพยาบาลอื่นๆ ซึ่งยังมองเป็นบวกเพราะเป็นการใช้ประโยชน์จากการมีเครือข่ายโรงพยาบาลมากสุดในประเทศถึง 45 แห่ง รวมถึง Capacity ปัจจุบันที่ยังว่างอยู่โดยตั้งเป้าเพิ่ม Utilization Rate จาก 64% ในปี 60 ขึ้นเป็น 75-80% ในปี 63 ซึ่งเป็นบวกต่อการเติบโตของรายได้และ Margin

สำหรับปี 61 ปรับการเติบโตของรายได้ขึ้นจาก 7.8% เทียบจากปีก่อน เป็น 9.5% เทียบจากปีก่อน และจากการควบคุมต้นที่ที่มีประสิทธิภาพต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังปี 60 คาดว่าจะส่งผลบวกจาก Operating Leverage ที่สูงขึ้นเช่นกัน และทำให้ EBITDA Margin คาดว่าจะขยายตัวขึ้นจาก 23.1% เป็น 23.4%

ส่วนโครงการ Wellness Clinic ปัจจุบันค่อยๆเปิดให้บริการเป็นส่วนๆและคาดว่าจะเปิดเต็มที่ได้ในปี 62 ซึ่งคาดว่าผลขาดทุนเริ่มแรกจะไม่ฉุดกำไรในภาพรวมอย่างมีนัยยะและสามารถชดเชยได้จากโรงพยาบาลอื่นในเครือที่ยังเติบโตได้ดี ทั้งนี้คาดว่ากำไรปกติของ BDMS จะเดินหน้าทำจุดสูงใหม่ได้อีกครั้งตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ทยอยซื้อ” หุ้น BDMS พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 28 บาทต่อหุ้น จากเดิม 22.80 บาทต่อหุ้น หลังผลประกอบการมีทิศทางขยายตัวสูงกว่าคาด

โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 2/61 จะปรับตัวเด่น แม้จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนเนื่องจากเป็นช่วง Low Season ประกอบกับตรงเทศกาล Ramadan (ในระหว่างวันที่ 15 พ.ค. -14 มิ.ย. 61) ส่วนหนึ่งจากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับการเติบโตของรายได้ค่ารักษา โดยหลักๆจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ

โดยในช่วง เม.ย.-ต้น พ.ค. 61 ที่ผ่านมา แนวโน้มรายได้มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างดี ทำให้คาดรายได้ค่ารักษาในไตรมาส 2/61 จะเพิ่มสูงขึ้นราว 9-10% นอกจากนี้คาดจะมาจากการบริหารต้นทุน และลด SG&A ต่างๆ รวมทั้งการลดลงของต้นทุนทางการเงิน

นอกจากนี้ยังมีมุมมองเป็นบอกต่อผลประกอบการมากขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนด้านการขยายตลาด Insurance จากการร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกัน จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัทวิริยะประกันภัย บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต และ บริษัท Allianze อยุธยา โดยในไตรมาส 1/61 มีจำนวนลูกค้าประกันเพิ่มขึ้น 24% เทียบจากปีก่อนและมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 29 % หากแต่ทั้งปีคาดจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30 % (สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 60 ที่ 26% )

รวมทั้งแนวโน้มการขยายตลาดลูกค้าต่างชาติต่างๆ เช่น ในกลุ่มลูกค้าจีน ( โดยในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าหมาย Utilization rate จะไม่ต่ำกว่า 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 65-70% และจะมีสัดส่วนรายได้ต่างชาติอยู่ที่ 50% จากตอนนี้ 32%)

พร้อมด้วยการสนับสนุนจากศูนย์การแพทย์แห่งความเป็นเลิศ (Centers of Excellence) ทั้ง 10 แห่ง ได้แก่ BHQ, SVH, SNH, PT2 ,BPK, BPH, RPH, BUD, BCM, BRH รวมทั้งการเติบโตของ โรงพยาบาลใหม่ โดยปัจจุบันมี EBITDA Margin ติดลบอยู่ที่เพียง 4 แห่ง (BPR, SCT, SRH, BSR)

ขณะเดียวกันบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 61 ขึ้นเป็น 9,838 ล้านบาท โดยคาดการณ์รายได้กิจการโรงพยาบาลปี 61 จะอยู่ที่ 75,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% เทียบจากปีก่อน

ทั้งนี้โครงการต่างๆ อาทิ โครงการ BDMS Wellness Clinic เริ่มเปิดให้บริการ OPD แล้ว จำนวน 2 ศูนย์ และคาดจะเปิดครบทั้งหมด 8 ศูนย์ภายในปี 61 และในส่วน IPD คาดจะเริ่มทยอยเปิดในช่วงต้นปี 62 โดยปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกแล้วกว่า 30 ราย ส่วนค่าสมาชิกแรกเข้า (ต่อราย) คาดจะอยู่ที่ 3 ล้านบาท (สำหรับระยะเวลา 10 ปี) ทั้งนี้ในไตรมาส 3/61 คาดจะมีการเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่ม 1 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงราย ขนาด 80 เตียง

อนึ่ง ราคาหุ้น BDMS ปิดตลาดวานนี้ (24 พ.ค.) อยู่ที่ 26.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.90% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท ทั้งนี้ยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 8%

Back to top button