ส่องหุ้นรับผลดี-ผลเสียเม็ดเงินโฆษณาช่วงฟุตบอลโลก 2018
ส่อง 6 หุ้นรับผลดี พร้อมเปิดชื่อ 3 หุ้นเสี่ยงเจอผลกระทบเม็ดเงินโฆษณาช่วงฟุตบอลโลก 2018
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่คาดว่าจะได้รับผลดี รวมถึงหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจากช่วงการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2018 ในช่วง 14 มิ.ย. – 15 ก.ค. 2561
ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงถ่ายทอดฟุตบอลโลก นั้น เม็ดเงินโฆษณาจะกระจุกตัวอยู่เพียงช่องที่ได้รับสิทธิการถ่ายทอดฟุตบอลโลก ส่งผลให้บจ.ในกลุ่มบันเทิงที่ไม่ได้รับสิทธิถ่ายทอดได้รับความนิยมจากผู้ชมน้อยลง เม็ดเงินโฆษณาในช่วงดังกล่าวจึงลดลงตามเรตติ้งทีวี
ขณะที่ช่องที่ได้รับสิทธิการถ่ายทอดจะมีโอกาสได้รับเม็ดเงินโฆษณาที่สูงขึ้น โดยในการถ่ายทอดครั้งนี้มี 3 ช่องที่ได้รับลิขสิทธิ์ คือ ช่อง Amarin TV, TRUE4U และช่อง 5 ซึ่งในแต่ละช่องจะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนการเงินในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลโลก และจะมีสิทธิลงโฆษณาใน 3 ช่องนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของกลุ่มเหล่านี้ในการโฆษณาสินค้าผ่านช่องที่ได้รับความนิยมสูง
โดย นางอุมากมล สุนทรสุรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่าย, ผลกระทบด้านธุรกิจและสังคมไทยในช่วงฟุตบอลโลก 2018 โดยคาดว่าช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกปีนี้ จะมีเม็ดเงินสะพัดจากการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจประมาณ 17,900 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะประกอบด้วย การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคและการสังสรรค์, การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์รับสัญญาณ และอื่นๆ ในขณะที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดจากการใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ (พนันบอล) อีกราว 58,900 ล้านบาท ซึ่งรวมแล้วคาดว่าฟุตบอลโลก 2018 จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยระบุถึงบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มของสื่อบันเทิง ว่า เม็ดเงินโฆษณากระจุกตัวช่องถ่ายทอดฟุตบอลโลกจะกดดันหุ้นกลุ่มบันเทิง ยิ่งใกล้ช่วงถ่ายทอดบอลโลกระหว่าง 14 มิ.ย. – 15 ก.ค. 2561 หุ้นบันเทิงย่อมได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เนื่องจากช่องทีวีที่ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลโลกมี 3 ช่องคือ ช่อง Amarin TV, TRUE4U และ ช่อง 5
โดยพันธมิตร 9 ราย ผู้ให้การสนับสนุนการเงินในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดบอลโลกเท่านั้นที่จะมีสิทธิลงโฆษณาใน 3 ช่องนี้ ทั้งนี้ผู้สนับสนุนหลัก 3 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 สนับสนุนการเงินรายละ 200 ล้านบาท ได้แก่ กลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์คิงเพาเวอร์ ,เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ,บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือ ช้าง ,บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ,บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK
กลุ่มที่ 2 สนับสนุนการเงินรายละ 100 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC
กลุ่มที่ 3 สนับสนุนการเงินรายละ 50 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG
อย่างไรก็ตามช่องทีวีอื่นๆ คาดว่าเวลาการขายโฆษณาน่าจะลดลง เพราะผลกระทบที่ผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะให้น้ำหนักการชมบอลโลก ในช่วงเย็นจนถึงดึก (19.00 – 01.00 น.) มากกว่าการดูละคร หรือ เกมโชว์ ซึ่งสามารถไปหาดูได้ในเวลาอื่นๆ ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Over-the-Top (Youtube, Mello.me ของช่อง 3 หรือ Bugaboo ของช่อง 7)
ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุน ก็ไม่สามารถนำสิทธิ์การแข่งขัน หรือแม้แต่ logo ไปใช้ไม่ได้ จึงมีข้อจำกัดในการซื้อโฆษณาและการทำการตลาด ส่งผลให้เอเจนซี่แต่ละรายอาจชะลอการลงโฆษณา ทำให้เม็ดเงินโฆษณาทีวีดิจิทัลหดหายไปในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกตลอด 1 เดือนนี้
อย่างไรก็ตามในช่วงบอลโลกปี 2557 พบว่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือน มิ.ย. – ก.ค. ปี 2557 เพิ่มขึ้นราว 3.7% จากเดือนก่อน (จาก 9.711 พันล้านบาท เป็น 10.08 พันล้านบาท) เทียบกับช่วงไม่มีบอลโลก ทั้งก่อนและหลังปี 2557 พบว่าเม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้จึงยังให้น้ำหนักหุ้นบันเทิงน้อยกว่าตลาด และยังแนะนำขาย WORK, BEC ขณะที่ RS (FV@B36) แม้จะได้รับผลกระทบบ้างแต่น่าจะจำกัด เพราะรายได้หลักของธุรกิจหลักกว่า 80% มาจากธุรกิจความงาม จึงแนะนำ ซื้อ เมื่อราคาอ่อนตัว