TTA มั่นใจรายได้ปี 61 โตเกินเป้า 1.7 หมื่นลบ.รับไฮซีซั่น โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูอัพไซด์สูง

TTA มั่นใจรายได้ปี 61 โตเกินเป้า 1.7 หมื่นลบ.รับไฮซีซั่น โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูอัพไซด์สูง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA หลังบริษัทมั่นใจว่าปีนี้จะทำรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

โดยราคาหุ้น TTA ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 6.80 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 1.45% สูงสุดที่ระดับ 7 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 15.99 ล้านบาท

ด้านนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้ปีนี้มีโอกาสที่จะสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากค่าระวางเรือมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของบริษัท เป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกส่งผลทำให้ความต้องการการขนส่งทางเรือสูงขึ้น ขณะที่ปริมาณเรือต่อใหม่ในตลาดไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเดินเรือ และธุรกิจปุ๋ย นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจในกลุ่มอาหารเพิ่มเติมด้วย โดยยอดขายสาขายเดิมเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มอาหารเป็น 15-20% ภายใน 3 ปี (61-63) จากปัจจุบันสัดส่วนไม่ถึง 10% โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาร้านพิซซ่าฮัทเป็นไม่ต่ำกว่า 200 สาขา ในปี 62 จาก ณ สิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 128 สาขา และมีแผนการขยายธุรกิจอาหารเพิ่มเติม โดยมีแผนการเปิดร้าน Taco Bell ในประเทศไทย 40 สาขาภายใน 5 ปี วางงบลงทุน 465 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดสาขาแรกได้ภายในปลายปีนี้

“การขยายกลุ่มธุรกิจไปยังด้านอาหารก็เพื่อที่จะลดความผันผวนของรายได้ เนื่องจากในกลุ่มธุรกิจเดินเรือที่มีความผันผวนมาก บางปีอาจจะมีกำไรถึง 1,000 ล้านบาท หรือบางปีอาจจะขาดทุนได้ 1,000 ล้านบาท ขณะ เมอร์เมด มาริไทม์ ทำธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งแก่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติก็มีความผันผวนที่เข้ามากระทบคือราคาน้ำมัน ซึ่งการมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารมากขึ้นก็จะช่วยให้เราลดความผันผวนของรายได้พวกนี้ไป” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TTA ในราคาเป้าหมาย  11.90 บาท โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/61 จะฟื้นตัวเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจเดินเรือ

โดยมีปัจจัยบวกสนับสนุนคือ 1) ค่าระวางเรือที่ช่วงผ่านมายังดีต่อเนื่อง โดยยังสูงขึ้นเล็กน้อยเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตามดัชนี BSI ที่ใช้อ้างอิง และหากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนคาดดีขึ้นมากจากที่ได้ค่าระวาง 8,614 ดอลลาร์/วัน/ลำ ซื้อเรือเพิ่มอีก 1 ลำเป็น 22 ลำ

2) วันทำงานของเรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน แต่ลดลงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะยังมีเรือเข้า Dry Dock อีก 1 ลำ และทยอยรับรู้ Backlog ที่สิ้นไตรมาส 1/61 มี 173 ล้านดอลลาร์ ขายแท่นขุดเจาะ MTR-1 และ MTR-2 ได้แล้ว ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง 7 แสนดอลลาร์/ปี

3) เข้าสู่ฤดูเพาะปลูกที่เวียดนามและการส่งออกฟื้นตัว คาดปริมาณขายจะสูงขึ้น อีกทั้งได้ปรับราคาขายขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุน และมาตรการเก็บภาษีนำเข้าวัตถุดิบของเวียดนาม ไม่ได้มีการประกาศต่ออายุมาตรการ จะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นกลับมาดีขึ้นจากไตรมาสก่อน และ 4) ธุรกิจลงทุน UMS คาดยังขาดทุนต่อเนื่อง Pizza Hut ยังเปิดสาขาเพิ่มโดยเน้นในต่างจังหวัด รายได้จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/61 ที่มีกว่า 400 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 มีการเปิดสาขาอีก 8 แห่ง

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก จากปัจจัย 1) ไม่มีเรือเข้า dry dock ในครึ่งปีหลัง ทำให้สามารถทำงานได้เต็มที่ และรับรู้ Backlog ต่อเนื่อง ราว 50% ของ Backlog จะรับรู้ในปีนี้ อีก 50% จะอยู่ในปี 2562 โดยยัง Bid งานใหม่อย่างต่อเนื่อง 2) TSS ค่าระวางเรือยังเป็นขาขึ้นจาก Demand/Supply ที่ยังสมดุล และอาจมีการซื้อเรือเพิ่มอีก

3) PMTA ยังมองดีต่อเนื่องทั้งจากปริมาณขายทั้งในเวียดนามและส่งออกมาร์จิ้นแนวโน้มดีขึ้นจากการปรับราคา 4) Pizza Hut รายได้ดีขึ้นตามการขยายสาขา โดยในปีนี้จะเปิด สาขาไม่น้อยกว่า 20 แห่ง คาดว่า Pizza Hut น่าจะ Breakeven ได้ปลายปีนี้ และจะจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ถือหุ้น 70% เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารภายใต้ชื่อ “ทาโก้เบลล์” ในประเทศไทย ตามแผนคาดว่าจะเริ่มธุรกิจร้านอาหารทาโก้เบลล์ได้ในไตรมาส 4/61 ภายใน 5 ปีจะมี 40 สาขา ใช้เงินลงทุนรวม 465 ล้านบาท

และ 5) UMS ยังขาดทุนต่อเนื่อง โดยได้ลดการทำธุรกิจเพื่อให้เหมาะสมกับเงินทุน อย่างไรก็ตาม ส่วนทุนที่เหลือเพียง 0.72 ล้านบาท หากไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ก็มีความเสี่ยงที่อาจเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการภายหลังประกาศงบปี 2561

Back to top button