WHA รับผลดียอดลงทุนเขต EEC โตกว่า 2 เท่าตัว หนุนผลงานโตแจ่ม!
WHA รับผลดียอดลงทุนเขต EEC โตกว่า 2 เท่าตัว หนุนผลงานโตแจ่ม!
สืบเนื่องจาก นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการประกาศใช้ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกในช่วงไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนในพื้นที่อีอีซียังคงมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาการขออนุญาตประกอบและขยายกิจการ 53 โรงงาน มูลค่าการลงทุนเติบโตขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2,820 เป็น 9,863.24 ล้านบาท หรือเกือบ 250%
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการจดประกอบและขยายกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติก กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะ และกลุ่มแปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้14
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลบวกต่อประเด็นดังกล่าว
โดยพบว่า นักวิเคราะห์ บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” WHA ราคาเป้าหมาย 5 บาทต่อหุ้น จากการเติบโตของกำไรและผลประโยชน์จากอีอีซีที่โดดเด่น หลังพ.ร.บ. อีอีซีเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว จึงทำให้นโยบายสนับสนุนการลงทุนต่างๆมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามประมาณการของยังคงใช้สมมุติฐานเชิงอนุรักษณ์นิยมต่อการโอนที่ดินของ WHA ในปี 2561 ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% เทียบจากปีก่อน มาอยู่ที่ 1,000 ไร่ (สอดคล้องกับเปาหมายของบริษัท) และค่าราคาขายเฉลี่ยจะปรับขึ้นเพียงแค่ 5% เทียบจากปีก่อน ซึ่งหมายความว่ารายได้จากการขายที่ดินจะเติบโต 8% เทียบจากปีก่อน ในปีนี้
หากแต่การโอนที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งคำนวณว่าทุกๆ 100 ไร่ที่บริษัทโอนที่ดินได้มากกว่าที่คาดการณ์จะส่งผลให้กำไรหลักเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การลงทุนในอีอีซีที่น่าสนใจจะดึงดูดการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ โดยคาดว่าสัญญาเช่าล่วงหน้าใหม่ของ WHA ในปี 2561 จะเติบโตก้าวกระโดด 39% มาอยู่ที่ 225,000 ตารางเมตร (โดยเป้าหมายของ WHA อยู่ที่ 200,000-250,000 ตารางเมตร)
นอกจากนี้โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวเนื่องกับ อีอีซี เช่น ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และอุปสงค์เช่าพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องกับ อีอีซี เช่น แผนการเปิดตัว E-commerce park ในประเทศไทยของ Alibaba จะหนุนการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มในอนาคต นอกจากนี้ WHA วางแผนที่จะประมูลโกดังที่สนามบินอู่ตะเภา ในส่วน ธุรกิจซ่อมเครื่องบิน (MRO) ขนาดหลายแสนตารางเมตร ซึ่งคำนวณว่าทุกๆ 100,000 ตารางเมตรของการเช่าโกดังที่สูงกว่าที่คาดการณ์จะหมายถึงอัพไซด์ 5-6% ต่อประมาณการกำไรระยะยาวของ WHA
ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นจากการขายที่ดินอุตสาหกรรมและการเช่าโกดังคาดว่าจะหนุนอุปสงค์สาธารณูปโภคและพลังงานในพื้นที่ นอกจากการเติบโตจากธุรกิจที่มีอยู่แล้ว WHA ยังคงศึกษาการเช้าร่วมประมูลโครงการบริหารการจัดการน้ำสำหรับท่าอากาศยานอู่ตะเภา ซึ่งมองว่าเป็นอัพไซด์ต่อแนวโน้มธุรกิจในระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีมุมมองเชิงบวกแก่แนวโน้มกำไรของ WHA จากประเด็นดังต่อไปนี้ 1) แนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ที่ดูดีขึ้น และ 2) ต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งทั้งสองประการส่งผลให้มีการปรับประมาณการกำไรหลักเพิ่มขึ้น 16% มาอยู่ที่ 3,549 ล้านบาท นอกจากนี้ยังปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น 30% มาอยู่ที่ 5,574 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองรีทส์ในปี 2561 เพิ่มขึ้น 43% จากเดิมที่ 160,000 ตารางเมตร มาอยู่ที่ 228,000 ตารางเมตร อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของกำไรหลังหักภาษีคิดเป็นเพียง 4% ของมูลค่าตามบัญชีของบริษัท
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมองเป็นบวกต่อ WHA จากข่าวข้างต้น เนื่องจากการขยายโรงงานจะหนุนให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น และกระตุ้นการเข้ามาลงทุนในอนาคตโดยเฉพาะเขตพื้นที่ EEC ที่ได้รับผลบวกจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี
รวมทั้งความชัดเจนของการคมนาคมที่ได้มีการขายซองประมูลรถไฟฟ้า 3 สนามบิน โดยมูลค่าการลงทุน 9.8 พันล้านบาท มาจากพื้นที่จังหวัดระยอง และฉะเชิงเทราที่ 5.3 และ 3.1 พันล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ชอบ WHA พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท จากการมีพื้นที่รองรับการขายที่สูง โดยเฉพาะบริเวณ EEC
ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำเลือกลงทุนในหุ้นที่เติบโตในประเทศ (Domestic Play) เป็นหลัก คือ หุ้นเกี่ยวกับการลงทุนภาครัฐและ EEC คือ WHA และให้ราคาเป้าหมายที่ 4.89 บาทต่อหุ้น