3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” CPF ลุ้นกำไร Q2/61 พุ่งแตะ 5.2 พันลบ. นิวไฮในรอบ 2 ปี
3 โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" CPF ลุ้นกำไร Q2/61 พุ่งแตะ 5.2 พันลบ. นิวไฮรอบ 2 ปี หลังธุรกิจส่งออกมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเงินบาทอ่อนตัวช่วยหนุนกำไรเติบโต
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/61 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยนักวิเคราะห์หลายแห่งมีการคาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF จะเติบโตทำจุดสูงสุดอีกครั้งในรอบ 2 ปี
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPF ในราคาเป้าหมายไว้ที่ 31 บาทต่อหุ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าไตรมาส 2/61 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีการบันทึกกำไรจากการแลกเปลี่ยนหุ้นกู้อนุพันธ์กับหุ้น CPALL ประมาณ 2,400 ล้านบาท (ก่อนหักภาษี) รวมทั้งมีกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมสินทรัพย์ชีวภาพและกำไรจากการขายหุ้น CPALL รวมประมาณ 1,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการพิเศษ CPF จะมีกำไรปกติอยู่ที่ 2,160 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ฟื้นตัวขึ้นกว่า 80% จากงวดไตรมาส 2/2560 โดยธุรกิจสุกรที่เวียดนามมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง จากปริมาณการเลี้ยงสุกรที่ลดลงหลังจากที่ผู้ประกอบการหลายรายขาดทุนอย่างหนักในปี 2560
สำหรับธุรกิจไก่ในประเทศคาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 2561 เนื่องจากการส่งออกไปยังจีนมีแนวโน้มที่ดี เบื้องต้นจะต้องมีการเจรจากับ KFC ที่จีน ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในต่างประเทศ เช่นที่รัสเซียและตุรกียังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPF ในราคาเป้าหมาย 28.25 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่า CPF จะรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/61 จำนวน 5,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายจำนวน 132,269 ล้านบาท เนื่องจากราคาหมูที่เวียดนามปรับเพิ่มขึ้น
โดยคาดการณ์ว่า CPF จะมีกำไรสุทธิ จำนวน 5,174 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่จะมีการบันทึกกำไรจากรายการพิเศษที่มีนัยสำคัญ จากกำไรการแปลงสภาพการใช้สิทธิหุ้นกู้อนุพันธ์หุ้น CPALL จำนวน 54 ล้านหุ้น ที่ราคาใช้สิทธิ 77.35 บาทต่อหุ้น ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรก่อนหักภาษีประมาณ 3,000 ล้านบาท และมีกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพจากราคาหมูที่เวียดนามฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเบื้องต้นคาดจะมีกำไรปกติอยู่ที่ 1,133 ล้านบาท
ส่วนนักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ทยอยซื้อสะสม” หุ้น CPF โดยปรับราคาเป้าหมายเป็น 28.50 บาท จากเดิมอยู่ที่ 24.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากประเมินว่าการลดกำลังการผลิตของผู้ประกอบการในไทย จะมีส่วนช่วยหนุนให้ราคาไก่ และสุกรภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/2561 เป็นต้นไป
ประเมินว่า CPF จะรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/61 จำนวน 5,240 ล้านบาท เติบโต 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ถือว่ากำไรสุทธิของ CPF ในงวดไตรมาส 2/2561 เป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นผลจากการบันทึกกำไรจากการแปลงสภาพการใช้สิทธิ์หุ้นกู้อนุพันธ์ (Exchangeable Bonds) หุ้นของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL
ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/61 คาดว่าจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 2/2561 และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาสุกรที่เวียดนามยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงการที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า จึงมีส่วนสนับสนุนการส่งออกไก่และกุ้ง อีกทั้งแนวโน้มปริมาณการส่งออกไก่และกุ้งจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อไก่จากประเทศจีนที่เพิ่มสูงขึ้น