BEM น่าเก็บ! ลุ้นกำไร Q2/61 นิวไฮแตะพันล้าน โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้า 10 บ.
BEM น่าเก็บ! ลุ้นกำไร Q2/61 นิวไฮแตะพันล้าน โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เคาะเป้า 10 บ.
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM หลังนักวิเคราะห์ได้มีการประเมินว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2561 จะมีกำไรสุทธิเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้าไซยะบุรี มูลค่าประมาณ 240 ล้านบาท
โดย น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ขณะนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEM ในราคาเป้าหมายที่ 10 บาทต่อหุ้น โดยมองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ของ BEM จะเติบโตแตะ 1 พันล้านบาทเป็นไตรมาสแรก ทำสถิติสูงสุด จากการบันทึกกำไรการขายหุ้นโรงไฟฟ้าไซยะบุรีให้ CKP ราว 242 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากการรีไฟแนนซ์เงินกู้โครงการทางด่วนศรีรัชฯในไตรมาส 1/61 คาดจะสามารถประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ราว 25 ล้านบาทต่อไตรมาส
ขณะที่หากไม่ได้นับรวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้น คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 788 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตของธุรกิจทางด่วนราว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน, ธุรกิจรถไฟฟ้าโต 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และธุรกิจป้ายโฆษณาที่เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนการเติบโตในปี 61 ยังคงประมาณการกำไรสุทธิเติบโต 19% จากปีก่อน จากจำนวนผู้ใช้รถบนทางด่วน และจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยทั้งปี 8.8-9% ทุกธุรกิจ ประกอบกับการปรับขึ้นค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็น 25.60 บาท จากเดิม 25.30 บาท ซึ่งจะดำเนินการปรับขึ้นได้ในเดือน ต.ค.นี้ รวมถึงการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเร็วกว่ากำหนด 1-3 เดือน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้จำนวนผู้โดยสารขยายตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโอกาสจากการเปิดประมูลทางด่วน 3 สาย และรถไฟฟ้าอีก 1 เส้นทางที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เช่น มอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี คาดขายซองไตรมาส 3/61, ทางด่วนพระราม3-ดาวคะนอง คาดขายซองภายในปีนี้, รถไฟฟ้าสีม่วงใต้ คาดประมูลในไตรมาส 4/61 และสายสีส้ม คาดประมูลในครึ่งปีแรกของปี 62 ล่าสุด BEM เข้าซื้อซองรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่า 2 แสนล้านบาท คาดว่าจะจับมือกับบริษัทแม่ CK เข้าประมูลในวันที่ 12 พ.ย.นี้
ด้านนายเบญจพล สุทธิ์วนิช นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.เอเอสแอล คาดว่า BEM จะมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้ใช้บริการและรายได้เฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจทางด่วนมีปริมาณรถเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 27.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ธุรกิจรถไฟฟ้ามีจำนวนผู้ใช้บริการ 2.96 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 7.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 7.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ บริษัทยังมีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการรีไฟแนนซ์ในช่วงไตรมาสแรก ทำให้ประหยัดต้นทุนทางการเงินลงปีละ 100 ล้านบาท และการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้าไซยะบุรี จำนวน 240 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/61 จะเติบโตเป็น High record
สำหรับทั้งปีนี้ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 61 ไว้ที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากปีก่อน จากธุรกิจทางด่วนและธุรกิจรถไฟฟ้าที่มีการเติบโต และมีโอกาสเติบโตก้าวกระโดดในอนาคตตามโครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าตามแผน รวมไปถึงโอกาสในการขยายเส้นทางเพิ่มตามแผนการลงทุนของภาครัฐฯ