โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” SGP หลังงบ Q2 พลิกกำไร 765 ลบ. ลุ้นครึ่งปีหลังโตต่อรับราคา LPG ขาขึ้น
โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” SGP หลังงบ Q2 พลิกกำไร 765 ลบ. ลุ้นครึ่งปีหลังโตต่อรับราคา LPG ขาขึ้น
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP หลังมีการรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2561 พลิกมีกำไรสุทธิ 765 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 66 ล้านบาท โดยเป็นผลจากรายได้จากการขาย การขนส่ง และการให้บริการที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีกำไรขั้นต้นสูงขึ้นเนื่องจากราคาก๊าซในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น
โดยไตรมาส 2/2561 บริษัทมีรายได้จากการขาย การขนส่ง และการให้บริการ จำนวน 15,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 13,372 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากรายได้ธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะมีปริมาณการขายและราคาขายที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกโดยรวมในงวดไตรมาส 2/2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 512 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน จากไตรมาส 2/2560 เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 412 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 866 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,077 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรขั้นต้นที่ลดลงอย่างมากในช่วงไตรมาส 1/2561 และมีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น โดยในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทมีกำไรขั้นต้น 1,523 ล้านบาท ลดลง 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 1,934 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2561 ทำได้เพียง 468 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก ส่งผลให้กำไรขั้นต้นโดยรวมในงวด 6 เดือนแรกลดลง
ด้านนายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ SGP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2561 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกจากราคาก๊าซ LPG ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมไปถึงการขยายตลาดส่งออกใหม่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของประเทศจีน มาเลเซีย และประเทศใหม่ในแถบเอเชียตะวันออกที่มีความต้องการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มั่นใจว่ายอดขายในปี 2561 จะทำได้ที่ระดับ 3.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.2 ล้านตัน
ด้านนักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SGP ในราคาเป้าหมายที่ 15 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทมีรายได้ในไตรมาส 2/61 ที่ระดับ 15,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน และเติบโต 2% จากไตรมาสก่อน จากธุรกิจจำหน่ายแก๊ส LPG ในต่างประเทศ ที่มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นและจากราคาแก๊ส LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) โดยรวมที่สูงกว่าปีก่อน โดยราคาแก๊ส LPG ในตลาดโลกในช่วงไตรมาส 2/61 มีราคาเฉลี่ยประมาณ 512 ดอลลาห์สหรัฐฯ/ตัน เทียบกับไตรมาส 2/60 ที่ 412 ดอลลาห์สหรัฐฯ/ตัน
พร้อมคาดผลประกอบการไตรมาส 3/61 จะดีขึ้นและกำไรอาจเทียบเท่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไรดีมากได้ เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และราคาแก๊ส LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) จะอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ช่วงไตรมาส 3-4 ของทุกปี โดยปัจจุบันอยู่ที่ราว $550/ton หลังจากที่พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดของปีที่เกือบ $600/ton เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้มาร์จิ้นแก๊สจะยืนสูงต่อเนื่อง นอกจากราคาแก๊สแล้วค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงสู่ 33 THB/US$ คาดเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยหนุนกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศ จากการแปลงค่าเงินหลังจากเงินบาทอ่อนค่า