เปิด 15 รายชื่อหุ้น mai โชว์กำไร Q2/61 โตกระฉูดเกิน 100%
เปิด 15 รายชื่อหุ้น mai โชว์กำไร Q2/61 โตกระฉูดเกิน 100% นำโดย THMUI,ADB,COLOR,CHEWA,PORT,X0,2S, AUCT,ARIP,PSTC,TPCH, THANA,CHOW,MOONG และ TPAC
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูล และทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (mai) ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 โดยในไตรมาส 2/61 บจ. มียอดขายรวม 44,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนรวม 34,851 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.16% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.18% ลดลง 0.63% ในขณะที่กำไรสุทธิ 1,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.02%
ขณะที่ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 61 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 พบว่า บจ.ที่รายงานผลกำไรสุทธิมีจำนวน 107 บริษัท คิดเป็น 73% ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด โดยมียอดขายรวม 88,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.91% จากปีก่อนหน้า ต้นทุนรวม 68,963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.61% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 23.24% มาอยู่ที่ 22.12% อย่างไรก็ดี บจ. ยังคงมีกำไรสุทธิรวม 3,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.73%
อย่างไรก็ตามครั้งนี้จะเลือกนำเสนอข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่มีผลกำไรเติบโตโดดเด่นมากสุดในกลุ่ม mai ซึ่งมีกำไรเติบโตเกิน 100% โดยครั้งนี้มีหุ้นที่ติดเกณฑ์ดังกล่าว 16 ตัว อาทิ THMUI,ADB,COLOR,CHEWA,PORT,X0,2S, AUCT,ARIP,PSTC,TPCH, THANA,CHOW,MOONG และ TPAC
โดยเป็นการอาศัยข้อมูลซึ่งรวบรวมจากบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ โดยนายสุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานค้าบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ อย่างไรก็ตามการนำเสนอข้อมูลประกอบการลงทุนอาจได้ไม่ครบทั้งหมดดังนั้นจึงขอนำเสนอเพียง 5 อันแรกของตารางดังนี้
อันดับ 1 คือ บริษัท ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ THMUI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 มีกำไรสุทธิ 16.45 ล้านบาท โต 655.63% จากปีก่อน 2.18 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 182.83 ล้านบาท และ 331.49 ล้านบาท ตามลำดับ บริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จำนวน 148.66 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายท่อ บริการท่อและอุปกรณ์ท่อ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า THMUI กำไรสุทธิไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 16.5 ลบ. +306% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +656% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการรับรู้งานวางท่อปะปาที่ภูเก็ต 156 ลบ.
แนวโน้ม 2H18 ยังคงสดใส เพราะมีงานวางระบบน้ำต่อเนื่องทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่อีกราว 120 ลบ. และคาดว่ายอดขายลวดสลิงจะเร่งตัวขึ้นตามฤดูกาล ยังคงคาดกำไรสุทธิทั้งปีนี้ที่ 53 ลบ. +147% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนPE2018-19 เพียง 9-11 เท่า และ PEG อิงการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้าก็แค่ 0.5 เท่า แถมคาดจ่ายปันผลสูง 5% ต่อปี
อันดับ 2 บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 มีกำไรสุทธิ 7.87 ล้านบาท โต 420.29% จากปีก่อน 1.51 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 330.33 ล้านบาท และ 364.04 ล้านบาท ตามลำดับ แบ่งเป็นรายได้จากการขายจำนวน 325.36 ล้านบาท และ 359.15 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้จากการขายของบริษัทฯเพิ่มขึ้น 33.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 10.39% มีสาเหตุหลักจากการขายผลิตภัณฑ์กาวและยาเพิ่มขึ้น 30.47 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 18.59% จากไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน เนื่องจากการขยายตลาดของยอดขายผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวกว่า 24 ล้านบาท จากการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก
ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจากผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวขนาดเล็กสำหรับใช้ในครัวเรือน (DIY Products) มียอดจำหน่านสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 14 ล้านบาท จากรายได้กลุ่มดังกล่าวมาจากการจำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายและการรับจ้างผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า ซึ่งได้ผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงไตรมาส 2/61 จึงทำให้รายได้เมื่อแปลงเป็นสกุลเงินบาทมปรับตัวเพิ่มขึ้น
อันดับ 3 บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 มิ.ย. 61 มีกำไรสุทธิ 10.64 ล้านบาท โต 379.06 % จากปีก่อน 2.24 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ในไตรมาส 2 /61 จำนวน 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 2560 ซึ่งมีรายได้รวม 249 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายตลาดได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับบริษัทแห่งนี้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง
อันดับ 4 บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 มิ.ย. 61 มีกำไรสุทธิ 93.05 ล้านบาท โต 314.24% เทียบปีก่อนมีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 885 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 564 ล้านบาท หรือคิดเป็น 176 % เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 320 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้มาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ 874 ล้านบาท และรายได้อื่นๆจำนวน 11 ล้านบาท ส่วนกำไรงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 150 ล้านบาท โตขึ้นใกล้กำไรทั้งปีของปีก่อน
ส่วนทิศทางธุรกิจปี 2561 ของบริษัทฯ เชื่อว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมุ่งมั่นกับรายได้ที่เติบโตไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 2560 โดยมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 800 ล้านบาท
โดยบริษัทได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจ โดยมีแผนพัฒนาโครงการจำนวน 6 โครงการใหม่ และอีก 2 โครงการร่วมทุน คิดเป็นมูลค่ารวม 6,300 ล้านบาท ซึ่งจากแผนพัฒนาโครงการต่างๆ รวมถึงการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอนอยู่ในมือสำหรับโครงการที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ในปี 2561 ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 2560
อันดับ 5 บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.61 มีกำไรสุทธิ 25.98 ล้านบาท โต 306.19 % จากปีก่อน 6.40 ล้านบาท
เนื่องจากรายได้การให้บริการไตรมาส2/61เพิ่มขึ้นเป็น 2368.67 ล้านบาท จากปีก่อน 305.73 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร และบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก รวมทั้งรายได้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ลคลังสินค้า
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน