โบรกฯชู SYNEX ท็อปพีคกลุ่ม! จับตากำไรปี 61 ทุบสถิติ “ออลไทม์ไฮ” รับไฮซีซั่น

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX หลังผู้บริหารออกมาให้ความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้ จะมีรายได้จากยอดขายและบริการเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ระดับ 37,500 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มีรายได้รวม 32,624.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิรวม 623.84 ล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีมีความเสี่ยงที่ยอดขายในไตรมาสไตรมาส 3/2561 จะชะลอทั้งจากไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฤดูฝนที่ลากยาวจนมีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่สำหรับผู้ค้าส่งกลับถูกกระทบไม่มาก เพราะเป็นช่วงที่ Dealer และ Mobile Operator สต็อกสินค้าไว้ขายในไตรมาส 4/2561 ที่เป็น High Season ในทางตรงข้ามกลับได้แรงหนุนจากธุรกรรม eCommerce มากขึ้น ซึ่ง SYNEX เริ่มรับเป็นตัวแทนในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าในลักษณะ B2B2C ให้กับ Dealer บางราย แนวโน้มกำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2561 จึงมีโอกาสโตสูงที่สุดในกลุ่ม

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิของ SYNEX จะทำสถิติสูงสุดใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 3/2561 ที่ระดับ 223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายที่เร่งตัวขึ้นใน 2 กลุ่ม คือ สมาร์ทโฟนที่ได้สิทธิขาย iPhone จาก Apple เพิ่มเติม (1H18 ได้ขายสินค้าทุกอย่างของ Apple ยกเว้น iPhone) และคอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์ในกลุ่มเกมมิ่ง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยราว 2%

อีกทั้งยังเป็นช่วงเร่งสต็อกสินค้าของ Dealer เพื่อเตรียมขายปลายปี ทำให้คาดรายได้รวมโต 1% จากไตรมาสก่อน และโต 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ระดับ 9,590 ล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะกลับไปยืนเหนือ 5% จากแรงหนุนของ Product Mix ที่โน้มเอียงมาทางสินค้าอัตรากำไรสูง และอำนาจการต่อรองกับ Supplier บางรายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การรับรู้กำไรของ BAF และการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนจะกลับเป็นปกติ อัตรากำไรสุทธิจึงมีโอกาสกลับไปใกล้เคียงหรือมากกว่าจุดสูงสุดเดิมในไตรมาส 1/2561 ที่ 2.4%

อย่างไรก็ตาม ด้วยเงื่อนไขที่สมาร์ทโฟนแบรนด์ดังทั้ง Apple, Huawei, และ Samsung ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้รวมกันราว 50% ของรายได้รวม จะเปิดตัวสินค้ารุ่นเรือธงพร้อมกัน และเริ่มขายในไทย ต.ค.-พ.ย. ของทุกปี ซึ่ง Samsung ที่แผ่วไปในปีก่อนจะกลับรุกตลาดอีกครั้ง กอปรกับเป็นครั้งแรกที่ SYNEX จะได้ขาย iPhone ของ Apple และด้วยฐานกำไรไตรมาส 4/2560 ที่ทำไว้ไม่สูง ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2561 จะโตแรงต่อเนื่อง และมีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน

โดยมองว่ากำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 2561 จะโตแรงกว่ากลุ่มผู้ขายสินค้าไอที เช่น COM7 IT และ SIS แล้ว ด้าน Valuation ของ SYNEX ก็ถือว่าน่าสนใจมาก โดย PE 2561-62 ต่ำเพียง 11-13 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตของตัวเองที่ 16 เท่า และค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 เท่า และเมื่อคิดเป็น PEG จะอยู่ที่เพียง 0.6-0.7 เท่า เราจึงยังแนะนำซื้อในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 20 บาท อิง PE Multiplier 20 เท่า

อนึ่งก่อนหน้านี้ นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNEX เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2561 จะมีรายได้จากยอดขายและบริการเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 37,500 ล้านบาท จากปี 2560 ที่มีรายได้รวม 32,624.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิรวม 623.84 ล้านบาท

โดยมีปัจจัยหลักมาจากจุดแข็ง “Value Added IT Distributor” จากแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 50 แบรนด์ ด้วยช่องทางการขายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าองค์กร ภาครัฐบาล และเอกชน พร้อมด้วยบริการหลังการขาย Synnex Care 1251 รวมถึงยอดขาย จำนวนบิล ปริมาณสินค้าที่ขายเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงต้นปี และการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายลด

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 บริษัทคาดว่าจะเติบโตมากกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 18,483.74 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 371.05 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และการขยายตัวของเทรนด์ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยไอที

ประกอบกับผู้ประกอบการด้านไอทีแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Apple, Huawei, Samsung มีการเปิดตัวสินค้าเรือธงรุ่นใหม่มากระตุ้นตลาด ทั้งสินค้าโน้ตบุ๊ก และสมาร์ตโฟน โดยเฉพาะในช่วงปลายไตรมาส 3/2561 และไตรมาส 4/2561 แบรนด์ iPhone (ได้สิทธิขายรุ่นใหม่เป็นครั้งแรก) จะเปิดตัวสินค้าใหม่ในวันนี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยสนับสนุนยอดขายกลุ่ม Apple ให้แข็งแกร่งขึ้น รวมไปถึงแบรนด์ตลาดล่างอย่าง Sony และแบรนด์ของ SYNEX เอง