จับตาหุ้นพลังงานตัวท็อปเข้าชิงแหล่งบงกช-เอราวัณ หลังก.พลังงานลุยเปิดยื่นข้อเสนอวันนี้

จับตาหุ้นพลังงานตัวท็อปเข้าชิงแหล่งบงกช-เอราวัณ หลังก.พลังงานลุยเปิดยื่นข้อเสนอวันนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพลังงานเปิดให้ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติขั้นต้นเข้ายื่นประมูลข้อเสนอขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม G1/61 (เอราวัณ) และ G2/61 (บงกช) ทะเลอ่าวไทย ในวันนี้ (25 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 8.30 -16.30 น. โดยจะเปิดประมูลในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC)  เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

เบื้องต้นคาดว่าจะรู้ผลผู้ที่สามารถยื่นข้อเสนอดีที่สุดในปลายเดือน พ.ย. หลังจากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในช่วงเดือน ธ.ค. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป และใช้ขั้นตอนในการจัดทำเอกสารเพื่อลงนามในสัญญาได้ประมาณเดือนก.พ.62

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานกำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมประมูลยื่นแผนการดำเนินงาน งบประมาณการลงทุน ข้อเสนอทางด้านเทคนิค และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ ตามเงื่อนไขหลักสำคัญที่ระบุไว้ใน TOR เพื่อการได้รับคัดเลือก โดยต้องยื่นเอกสาร 4 ซอง ประกอบด้วย ซองที่ 1 เป็นซองด้านคุณสมบัติของผู้ประกอบการปิโตรเลียมตามกฎหมาย , ซองที่ 2 การยอมรับเงื่อนไขให้ภาครัฐเข้าร่วมในสัดส่วน 25% ซึ่งภาครัฐจะกำหนดให้หน่วยงานใดเป็นผู้เข้าร่วมนั้นจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม กพช.ในช่วงเดือน ธ.ค.61 , ซองที่ 3 เป็นข้อเสนอทางเทคนิค ซึ่งประกอบด้วย แผนการลงทุน แผนการพัฒนาแหล่ง แผนช่วงรอยต่อ และแผนบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และซองที่ 4 ซองด้านราคาก๊าซธรรมชาติ และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐเกินกว่าสัดส่วน 50% ที่เป็นสัดส่วนขั้นต่ำตามกฎหมาย

 

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำจับตาการประมูลสัมปทานแหล่งบงกชและเอราวัณ 25 ก.ย.นี้ โดยภายหลังจากสภาพลังงานเพื่อประชาชนออกแถลงการณ์เชิญชวนพรรคการเมือง องค์กรภาคเอกชนทุกองค์กร เจ้าหน้าที่รัฐ  เอกชนผู้ร่วมประมูล และประชาชนทั่วไป รวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (24 ก.ย.61) เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องมีการยื่นเสนอทางเทคนิคเพื่อประมูลสัมปทานแหล่งบงกชและเอราวัณที่จะหมดอายุสัมปทานปี 2565-2566 ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ อย่างถูกต้องและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงผลตอบแทนของรัฐและประชาชนมากกว่าผลตอบแทนของเอกชน

ด้านเครือข่ายประชาชนปฎิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ออกแถลงการณ์เตือนนายกรัฐมนตรี รมว.พลังงาน และปลัดกระทรวงพลังงาน ว่าอาจมีความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ในการผ่านคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูลสัมปทานแหล่งบงกชและเอราวัณในวันที่ 25 ก.ย.61 จากการที่มีข่าวในสื่อว่ากลุ่มบริษัทเชฟรอน (1 ในผู้ประกอบการที่มีสิทธิร่วมประมูล) มีเรื่องพัวพันค้าน้ำมันเถื่อน (ปี 57 กรมศุลกากรจับกุมและยึดน้ำมัน 1.6 ล้านลิตรมูลค่า 48 ล้านบาทที่ด่านสงขลาและต่อมาได้ส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดินในปี 61 บ่งชี้ว่าผู้เกี่ยวข้องยอมรับว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้น) และยังมีผู้ประกอบการที่มีสิทธิร่วมประมูลอีกราย พัวพันกับคดีการเรียกเก็บสินบนจากบริษัท โรลส์รอยซ์ ในการจัดซื้ออุปกรณ์ประกอบกิจการปิโตรเลียมที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐและสำนักงานปราบปรามทุจริตของอังกฤษได้ยืนยันความเกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา และปัจจุบันป.ป.ช.ของไทยอยู่ระหว่างสอบสวน

ทั้งนี้มองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นลบต่อ Sentiment หุ้น PTTEP โดยตรงและโดยอ้อมกับบริษัทแม่ คือ PTT ในระยะสั้น ทั้งนี้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะเปิดให้ผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นมีสิทธิเข้าร่วมประมูลสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแหล่งบงกชและเอราวัณทางเทคนิคและผลประโยชน์ตอบแทนรัฐในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดและคาดการณ์ว่า PTTEP จะชนะประมูลอย่างน้อย 1 แหล่งคือบงกช

โดยในปัจจุบัน PTTEP ถือหุ้นแหล่งบงกช 66.66% และถือหุ้นในแหล่งเอราวัณ 5% ซึ่งจะหมดอายุสัมปทานในปี 2565-2566 ในการประมูลรอบใหม่นี้ทาง PTTEP จะเข้าประมูลทั้งสองแหล่ง โดยคาดว่าจะทราบผลประมูลเดือนธ.ค.61 และมีสมมติฐานให้  PTTEP ชนะการประมูลทั้งสองแหล่งและถือหุ้นเท่ากับสัดส่วนปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาพื้นฐานของ PTTEP  จะเท่ากับ 160 บาท มี Upside จากราคาปิดวันศุกร์ที่ 153.50 บาทอยู่ 4%

 

อนึ่ง การเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมบงกช และเอราวัณครั้งนี้ เพื่อรองรับสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 65-66 โดยการเปิดให้ยื่นหลักฐานแสดงคุณสมบัติเบื้องต้น พบว่าแหล่งเอราวัณ มีผู้ยื่นหลักฐานจำนวน 5 ราย ได้แก่ บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd., บริษัท PTTEP Energy Development Company Limited ,บริษัท MP G2 (Thailand) Limited ,บริษัท Total E&P Thailand และบริษัท OMV Aktiengesellschaft

ส่วนแหล่งบงกช จำนวน 4 ราย ได้แก่ บริษัท Chevron Thailand Holdings Ltd., บริษัท PTTEP Energy Development Company Limited ,บริษัท MP L21 (Thailand) Limited และบริษัท OMV Aktiengesellschaft โดยทั้งหมดได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนให้เข้ายื่นเอกสารแสดงความจำนงเข้าร่วมประมูล ปรากฎว่า บริษัท OMV Aktiengesellschaft ไม่ได้เข้ายื่นเอกสารดังกล่าว ทำให้ในแหล่งเอราวัณมีผู้ยื่นเอกสารแสดงความจำนงเข้าร่วมประมูล 4 ราย และแหล่งบงกช จำนวน 3 ราย

Back to top button