โอกาสช้อน VGI ลุ้นกำไรปีนี้โต “ออลไทม์ไฮ” รับปัจจัยบวกเพียบ!
โอกาสช้อน VGI ลุ้นกำไรปีนี้โต "ออลไทม์ไฮ" รับปัจจัยบวกเพียบ!
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI หลังราคาหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 8.15 บาท เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2561 ซึ่งวานนี้ (25 ก.ย.) ราคาหุ้น VGI อยู่ที่ระดับ 7.65 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 3.16% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 290.44 ล้านบาท เป็นการปรับตัวลง 0.50 บาท หรือคิดเป็น 6%
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับคำแนะนำหุ้น VGI ขึ้นเป็น “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 9 บาท/หุ้น อิงจากการคิด Sum-ofthe-Partsโดย VGI ได้ขยายกิจการเข้าไปในธุรกิจ e-commerce ในทางอ้อมด้วยการซื้อ Kerry Express Thailand ในเดือนสิงหาคม ขณะเดียวกันด้วย Platform 3 แบบ คาดว่า VGI จะสามารถมี EPS CAGR ที่ 37% ในช่วงปี 62-64 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการพัฒนาใหม่ของ VGI และ Kerry ซึ่งตัวอย่างสินค้า/การให้บริการจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3/61
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” หุ้น VGI พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท/หุ้น โดย VGI มีแนวโน้มเติบโตสดใสจากธุรกิจสื่อโฆษณาแทบทุกส่วน นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มกำไรที่จะเติบโตได้อย่างสดใสในปีนี้และในอนาคต ซึ่งประเมินการเติบโตในกำไรของบริษัทเฉลี่ย 3 ปีต่อจากนี้ที่ 34% CAGR
โดยคาดว่ารายได้ของ VGI ในปีงบการเงินปี 2562 (เม.ย.-มี.ค.) จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดรายได้เติบโต 15.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้บนบริษัท MACO ที่มีการเข้าซื้อบริษัท Trans.Ad Solutions รวมไปถึงการขยายสื่อโฆษณาบนบีทีเอสและอาคารสำนักงาน
รวมทั้งบริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าถือหุ้น 23% ในบริษัท Kerry เข้ามาอีกด้วย โดยคาดว่า Kerry จะมีกำไรในปีนี้ราว 1,220 ล้านบาท ทำให้ VGI สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจำนวน 187 ล้านบาท ในอีก 8 เดือนที่เหลือของปีงบการเงินนี้ โดยสรุปแล้วด้วยปัจจัยบวกทั้งหมดจะส่งผลทำให้บริษัทมีกำไรปกติปีนี้เติบโตสูงถึง 45% เมื่อเทียบจากปีก่อนเป็น 1,197 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ส่วน นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น VGI พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 8.45 บาท/หุ้น โดยมองว่า VGI เป็นหุ้นที่เติบโตไปกับธีมการขยายตัวของ ecommerce และ e-payment ซึ่งกำลังเป็นอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มองว่ามีปัจจัยหนุนราคาหุ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
โดยในระยะสั้นจะเป็นการเติบโตจากธุรกิจสื่อ OOH และการรวมกำไรของ Kerry เข้ามา และในระยะยาวจะได้ปัจจัยหนุนจากการขยายเส้นทางของ BTS และธุรกิจของ Rabbit-LINE Pay ซึ่งมีมูลค่าตลาดมหาศาล Kerry Logistics และ Rabbit-LINE Pay จะยกระดับ VGI ไปอีกระดับ ราคาหุ้น ณ ตอนนี้สะท้อนช่วงเริ่มต้นของ 2 ธุรกิจหลักทั้ง e-commerce และ e-payment ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และจะหนุนการ Re-rating ของ Valuation ได้มากขึ้นไปอีกในอนาคต
ทั้งนี้คาดว่าสัดส่วนยอดขายของตลาด e-commerce จะเติบโตอย่างน้อยมาอยู่ที่ 10-12% ( จากเพียง 2% ในปัจจุบัน) ภายใน 5 ปี (ใกล้เคียงกันกับระดับของประเทศสหรัฐอเมริกาในตอนนี้ แต่ต่ำกว่าในประเทศจีนและประเทศเกาหลี) โดยประมาณการว่าการเติบโตของกำไรของ Kerry อยู่ที่ 45-50% ในช่วงปี 2561-2563 ส่งผลต่อกำไรส่วนเพิ่มไปที่ VGI เพิ่มขึ้น 16-30% ซึ่งยังไม่ได้รวมเข้าสู่การประมาณการของบล.บัวหลวง นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นรับอานิสงส์เลือกตั้งจากการการจัดกิจกรรมหาเสียงอีกด้วย