IPO รายใหญ่แห่งปี! OSP ลงสนามเทรดวันแรก ลุ้นราคาวิ่งทะลุ 28 บาท

IPO รายใหญ่แห่งปี! OSP ลงสนามเทรดวันแรก ลุ้นราคาวิ่งทะลุ 28 บาท จากราคาไอพีโอ 25 บาท โดยมีบล.บัวหลวง และบล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (16 ต.ค. 61) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในกลุ่มอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 603.75 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 25 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนสูงถึง 15,094 ล้านบาท

ขณะที่จะมีมูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) ประมาณ 75,094 ล้านบาท ณ ราคาที่เสนอขาย ซึ่งจะส่งผลให้ OSP เป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 61 ณ วันที่ OSP เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันแรก โดยมีบล.บัวหลวง และบล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 3,003,750,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 3,003,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด 2,497,000,000 บาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,497,000,000 หุ้น

โดยบริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและหุ้นสามัญเดิมจำนวนไม่เกิน 603.75 ล้านหุ้น ซึ่งแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 506.75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (บริษัท Orizon Limited และบริษัท Y Investment Ltd) จำนวนไม่เกิน 67,000,000 หุ้น และ 30,000,000 หุ้นตามลำดับ คิดเป็นไม่เกิน 20.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคา 25 บาทต่อหุ้น

ด้านนางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ OSP เปิดเผยว่า บริษัทได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในวันนี้ (17 ต.ค.) โดยใช้ชื่อย่อ “OSP” พร้อมเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มั่นใจในพื้นฐานและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน จากความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสามารถเข้าถึงทุกกลุ่มผู้บริโภค และเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งเข้ามาช่วยสนับสนุนขีดความสามารถการแข่งขันในการทำตลาด รวมถึงการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรที่ดีในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่ประเทศเมียนมา ได้ภายในไตรมาส 4/62 เพื่อผลิตสินค้าออกสู่ตลาด รองรับการเติบโตของตลาดที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคตจากปัจจุบันที่ OSP มีสัดส่วนมูลค่าค้าปลีกเครื่องดื่มบำรุงกำลังเป็นอันดับหนึ่งสำหรับปี 60 นอกจากนี้จะเร่งปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของฐานการผลิตในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจไปในภูมิภาคนี้เพิ่มเติม

“เรามีความพร้อมในการรุกใหญ่ขยายธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคนี้เพิ่มเติม เนื่องจากขีดความสามารถการแข่งขันในการทำตลาด ตลอดจนแบรนด์สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่ผสมแอลกออฮล์และของใช้ส่วนบุคคลที่มีความแข็งแกร่ง และช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตที่ดีและรักษาตำแหน่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคนี้ไว้ได้”นางวรรณิภา กล่าว

อนึ่ง OSP เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้ ตราสินค้า เช่น เอ็ม-150 ลิโพ เป็นต้น เครื่องดื่มเกลือแร่ และกาแฟพร้อมดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลภายใต้ตราสินค้าเบบี้มายด์ และทเวลฟ์พลัส รวมทั้งธุรกิจให้บริการผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้า

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า ราคาหุ้น OSP เข้าซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก (17 ต.ค.61) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในกรอบ 28-36 บาท จากราคา IPO ที่ระดับ 25 บาท อีกทั้ง ที่ผ่านมาราคาหุ้นของหลักทรัพย์ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ส่วนใหญ่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือราคา IPO ได้ประมาณ 20% จึงคาดว่า OSP จะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ในราคาดังกล่าว

Back to top button