JWD ส่งซิกผลงาน Q4/61 สดใส โบรกฯวางเป้า 9.35 บ. รับผลดีร่วมทุน “Bok Seng”
JWD ส่งซิกผลงานไตรมาส 4/61 สดใส โบรกฯวางเป้า 9.35 บ. รับผลดีร่วมทุน "Bok Seng"
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD หลังรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/61 มีกำไรเพิ่มขึ้นสูงถึง 24% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการเพิ่มขึ้น
โดยพบว่า นายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน JWD เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 จะเติบโตได้ดี โดยมีธุรกิจห้องเย็น ขนส่งสินค้า รับฝากและบริหารสินค้าอันตราย รวมถึงธุรกิจอาหารที่น่าจะขยายตัวโดดเด่น ก่อนหน้านี้บริษัทจึงปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้จาก 2,600 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 30% จากรายได้ปีที่ผ่านมา หลังจากผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาขยายตัวได้มากกว่าที่คาดไว้
ด้าน นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองโอกาสขยายธุรกิจเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมมือกับกลุ่ม Bok Seng Logistics Pte Ltd จากประเทศสิงคโปร์ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศไทยภายใต้ชื่อ บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี บ๊อกเส็ง โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท
โดย JVK (บริษัทในเครือ JWD) ถือหุ้น 60% เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์เฉพาะทางสำหรับสินค้าขนาดใหญ่พิเศษ (Project Cargo Logistics) ในประเทศไทยและ สปป.ลาว ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความชำนาญและองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม อาทิ การขนส่งหัวรถไฟ ชิ้นส่วนสะพาน สถานีปฏิบัติงานก๊าซธรรมชาติ การขนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันระหว่างประเทศ ฯลฯ
สำหรับการร่วมทุนครั้งนี้เป็นขยายขอบเขตการให้บริการของ JWD จากปัจจุบันที่มีประสบการณ์การขนย้ายเครื่องจักรขนาดกลางตามโรงงานทั่วไป สู่ผู้ให้บริการให้บริการโลจิสติกส์เฉพาะทางสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้และประสบการณ์จากฝั่ง Bok Seng ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง มีอุปกรณ์พิเศษหรือเครื่องจักรหนักในการขนย้าย และผู้เชี่ยวชาญด้านการประกอบติดตั้ง ซึ่งปัจจุบันกลุ่ม Bok Seng มีการขยายฐานธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เมียนมาร์ กัมพูชา โดยสามารถใช้แพลตฟอร์มที่มีอยู่มาปรับใช้ในการทำงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์เฉพาะทางสำหรับสินค้าขนาดใหญ่พิเศษในไทยและ สปป.ลาว ยังเปิดกว้างจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน เช่น โครงการสร้างเขื่อนใน สปป.ลาว แผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น รถไฟทางคู่ ไฮสปีดเทรน สนามบิน ท่าเรือ และโครงสร้างพื้นฐานใน EEC
โดยปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดเพียงไม่กี่ราย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและมีเทคนิคการทำงานที่ซับซ้อนกว่าการขนย้ายเครื่องจักรทั่วไป ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทระดับโลกหรือบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทย และเป็นงานที่ต้องเข้าร่วมประมูลโดยมีการทำสัญญาว่าจ้างในระยะยาว
นอกจากนี้บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ยังสามารถแชร์การใช้พื้นที่คลังสินค้าในเขตท่าเรือแหลมฉบังจาก JWD เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในระหว่างการทำงาน และสามารถใช้งานเครื่องจักรหนักจากกลุ่ม Bok Seng ในการรับขนย้ายให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งนำองค์ความรู้จากทั้ง 2 ฝ่ายนำมาขยายธุรกิจร่วมกันเพื่อผลักดันการเติบโตและเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้หลักให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น JWD พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 9.35 บาทต่อหุ้น โดย JWD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงแผนการตั้งบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี บ็อกเส็ง โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทย่อยของ JWD และ Mr. Ng Lian Soon ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท Bok Seng Logistics Pte Ltd ประเทศสิงคโปร์
โดยบริษัทดังกล่าวมีประสบการณ์ในธุรกิจ Project Cargo เช่น การลำเลียงสินค้าที่มีน้ำหนักมาก (Heavy Haulage), การเคลื่อนย้ายและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก (Heavy Lift and Positioning & Installation) และการขนย้ายสินค้าที่ต้องอาศัยความชำนาญพิเศษ (Specialized Movers) มากว่า 40 ปี ซึ่งเป็นการลงทุนในสัดส่วน 60:40 ทำให้บริษัทร่วมทุนถือเป็นบริษัทย่อยของ JWD โดยจะมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย เห็นถึงประเด็นดังกล่าวจะเป็นบวกต่อทิศทางผลประกอบการของ JWD ในอนาคต เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจเฉพาะที่มีมาร์จิ้นสูง และจะทำให้ JWD มีโอกาสเข้าร่วมในการขนย้ายและโลจิสติกส์ในโครงการระบบสาธารณูปโภคภาครัฐที่จะมีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากได้
รวมถึงการมีพาร์ทเนอร์ที่มีประสบการณ์และอุปกรณ์อย่างบ็อกเส็ง จะทำให้ JV ดังกล่าวไม่ต้องลงทุนในอุปกรณ์ที่ต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่จะเป็นการเช่าจากบ็อกเส็ง ซึ่งยิ่งทำให้ความเสี่ยงในการทำธุรกิจและผลตอบแทนมากขึ้น
ขณะที่ ราคาหุ้น JWD ปิดตลาดวานนี้ (12 พ.ย.) อยู่ที่ระดับ 7.55 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 1.31% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.57 ล้านบาท ยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายที่ 9.35 บาท อยู่ 23.84%