เปิดโผ 8 หุ้นกำไรไตรมาส 1/62 โตเด่นรับปัจจัยบวกแน่น!

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจรวบรวมข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2562 จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น

โดยพบว่านักวิเคราะห์มองว่า หุ้นที่จะมีผลงานโดดเด่นมี 3 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มปิโตรเลี่ยม กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มกลุ่มปิโตรเคมี-โรงกลั่น

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด มองว่า หุ้นที่คาดว่าจะมีกำไรโดดเด่นในไตรมาส 1/2562 มีดังต่อไปนี้

1. กลุ่มปิโตรเลี่ยม ที่คาดว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และราคาน้ำมันปัจจัยได้ฟื้นตัวจากปลายปี 2561 และขึ้นมายืนเหนือสมมติฐานของ ASPS โดยอยู่ที่ 66 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ได้แก่ PTT(FV@B56) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/2562 จะพลิกกลับมาเติบโตจากไตรมาส 4/2561 แม้มีแนวโน้มราคาขายปิโตรเลี่ยมเฉลี่ยที่ลดลง แต่จะหนุนจากการที่ไม่มีการบันทึกขาดทุนสต๊อกน้ำมันในระดับสูงเช่นที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4/2561 รวมทั้งกำไรจากบริษัทร่วมที่กลับมาเติบโต  ยกเว้น PTTEP(FV@B168) คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 1/2562 จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน กดดันจากปริมาณและราคาขายเฉลี่ยปิโตรเลียมที่ลดลง

2. หุ้นโรงไฟฟ้า

EGCO(FV@B275) คาดกำไรสุทธิคาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 4/2561 เพราะจะไม่มีการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ในระดับสูงเช่นในงวดที่ผ่านมา และผ่านพ้นช่วง low season รวมถึงการกลับมาเดินเครื่องได้เต็มกำลัง หลังมีการ shutdown โรงไฟฟ้าในงวดไตรมาส 4/2561 ไปแล้ว

RATCH(FV@B60) คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 1/2562 จะพลิกกลับมาเติบโตจากงวดไตรมาส 4/2561 ตามผลของฤดูกาล รวมถึงโรงไฟฟ้าที่หยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงไปในงวดไตรมาส 4/2561 กลับมาเดินเครื่องผลิตเต็มที่ในระดับปกติ และคาดในงวดนี้จะไม่มีแผน shutdown โรงไฟฟ้าเพื่อหยุดซ่อมบำรุงจำนวนมาก

BGRIM([email protected]) คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 1/2562 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2561 หนุนจากรับรู้โรงไฟฟ้าโซลาร์ Solar 2560 เต็มไตรมาส, โรงไฟฟ้า BPLC1 ที่กลับมาเดินเครื่องปกติ, ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น และค่า SG&A คาดจะลดลงตามฤดูกาล

EA(FV@B51) คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 1/2562 จะเติบโตจากงวดไตรมาส 4/2561 จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังลมจากช่วง high season ตามฤดูกาล และรับรู้โรงไฟฟ้าพลังลมหนุมาน 2 โครงการ ที่เพิ่ง COD

3. กลุ่มปิโตรเคมี-โรงกลั่น

PTTGC(FV@B79) แนวโน้มกำไรสุทธิ น่าจะเพิ่มจากงวดไตรมาส 4/2561 เพราะน่าจะมี stock gain เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวข้างต้น แต่หากพิจารณาผลการดำเนินงานปกติคาดจะลดลง   เพราะในงวดไตรมาส 1/2562 ยังมีแรงกดดันจาก spread ปิโตรเคมีทั้งสายโอเลฟินส์ และสายอะโรเมติกส์ รวมถึงค่าการกลั่น (GRM) อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ที่ลดลง แต่จะมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- เม.ย. เพราะจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลหยุดซ่อมบำรุงหลายแห่งทั่วโลก

TOP(FV@B78)  เช่นเดียวกัน คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ น่าจะเพิ่มจากงวดไตรมาส 4/2561เพราะน่าจะมี stock gain เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวข้างต้น แต่คาดกำไรปกติมีโอกาสอ่อนตัวจาก ไตรมาส 4/2561 ตามค่าการกลั่นไตรมาส 1 ถึงปัจจุบัน อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ที่มีการอ่อนตัวลงเช่นกัน  ยกเว้น spread ผลิตภัณฑ์พาราไซลีนที่ยังทรงตัวใกล้เคียงกับงวดไตรมาส 4/2561