3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” AAV ฟันธงกำไรปี 62 ทะลุ 700 ลบ. รับอานิสงค์นทท.จีนไหลกลับ-บาทแข็ง
3 โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” AAV ฟันธงกำไรปี 62 ทะลุ 700 ลบ. รับอานิสงค์นทท.จีนไหลกลับ-บาทแข็ง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV หลังมีการคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในปี 62 จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและอาเซียน โดยกลับมาท่องเที่ยวไทยมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 61 หลังชะลอตัวไปจากเหตุการณ์เรือล่มภูเก็ต
ประกอบกับมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa ON Arrival (VOA) นักท่องเที่ยว 21 ประเทศถึงสิ้นเดือนเม.ย.62 ที่จะเข้ามาช่วยหนุน ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและเงินบาทแข็งค่าขึ้นยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลดีต่อต้นทุนการดำเนินงาน
ทั้งนี้ AAV ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารปี 62 ไว้ที่ 23.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.3% จากปีก่อน พร้อมคาดอัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ 86% และอัตราการใช้งานเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็น 12.5 ชั่วโมง/วัน จากปีก่อน 11.7 ชั่วโมง/วัน รวมถึงเดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่ม และเพิ่มความถี่การบินอีก 21 เส้นทาง จะช่วยหนุนต่อผลประกอบการทั้งปีนี้ด้วย
ด้านนายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ AAV ในปี 62 จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งมาอยู่ที่ 776 ล้านบาท จากระดับกำไรสุทธิราว 70 ล้านบาทปีก่อน โดยจะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและอาเซียน จากผลมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลที่ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียม VOA ให้นักท่องเที่ยว 21 ประเทศ ไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.62
ทั้งนี้ AAV ยังตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารปีนี้ไว้ที่ 23.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 21.6 ล้านคน และตั้งเป้า Load Factor ไว้ที่ 86% ในขณะที่ตั้งเป้าอัตราการใช้งานเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็น 12.5 ชั่วโมง/วัน จากประมาณ 11.7 ชั่วโมง/วันในปี 61
ขณะเดียวกันในด้านต้นทุน AAV ยังได้ป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันเอาไว้ประมาณ 52% สำหรับการใช้งานในปี 62 ที่ต้นทุนเฉลี่ย 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ก็น่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานเช่นกัน
“เรามองว่า AAV ได้ผ่านจุดที่แย่ไปแล้ว และเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ลดลงและค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น รวมถึงยังมีแผนเพิ่มความถี่ในเส้นทางบินเดิมที่เป็นที่นิยม และเพิ่มเส้นทางบินใหม่ในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโต เราจึงยังคงแนะนำซื้อ” นายปริญทร์ กล่าว
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรสุทธิของ AAV ในปี 62 จะเติบโตมาที่ 885 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 70 ล้านบาท หลังจากการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น และชั่วโมงการบินเพิ่มขึ้นช่วยเฉลี่ยต้นทุนคงที่ต่อหน่วย ขณะที่คาดรายได้ในปีนี้จะเติบโต 11% เป็น 4.34 หมื่นล้านบาท จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย หลังมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA
ทั้งนี้ ในปีนี้กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 7.5% เป็น 41.1 ล้านคน โดยจะมาจากนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น 11% ที่ 11.69 ล้านคน และอาเซียนเพิ่มขึ้น 10% ที่ 11.31 ล้านคน และอินเดียเพิ่มขึ้น 26% มาที่ 2.01 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดถือว่าเป็นตลาดสำคัญของ AAV
ขณะเดียวกัน AAV ยังได้มีการเปิดเส้นทางบินใหม่ในปี 61 และครึ่งปีแรกของปี 62 อีก 28 เส้นทางบิน และเพิ่มความถี่ในการบินอีก 21 เส้นทาง โดยเส้นทางที่มีศักยภาพจะเปิดเพิ่ม เช่น ดาลัดที่เวียดนาม สีหนุวิลล์ที่กัมพูชา นิวเดลี-ไฮเดอร์ราบัดที่อินเดีย กาฐมาณฑุที่เนปาล รวมถึงจะใช้ประโยชน์จาก HUB ที่มีอยู่ 6 แห่งให้มากขึ้น และปีนี้เพิ่มเชียงรายเป็นแห่งที่ 7 ในการบินทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ AAV
พร้อมกันนี้ AAV ยังมีแผนรับมอบเครื่องบินอีก 4 ลำเป็น 66 ลำ เพิ่มชั่วโมงบินเป็น 12.5 ชั่วโมง/วัน/ลำ ทำให้ Capacity เพิ่มขึ้น 11% โดยตั้งเป้าผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 7.3% มาอยู่ที่ 23.15 ล้านคน และ Load Factor เพิ่มเป็น 86% โดยแผนในระยะยาว 5 ปีจะเน้นเส้นทางบินใหม่ในอินเดีย และ CLMV ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 10% และ 15% ตามลำดับ จากปัจจุบันที่ 5% และ 10% เพื่อมาถ่วงดุลกับตลาดจีนที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 30% แม้ตลาดจีนยังเติบโตแต่สัดส่วนจะลดเป็น 20% ส่วนตลาดในประเทศและอาเซียน (ไม่รวม CLMV) จะคงสัดส่วนเท่าเดิมที่ 45% และ 10%
ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 1/62 คาดว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งจีน อินเดีย และอาเซียน หลังจากชะลอไปในช่วงครึ่งหลังของปีก่อน ทำให้รายได้เฉลี่ย/ตั๋วดีขึ้น ต้นทุนลดลงตามราคาน้ำมันและเงินบาทที่แข็งค่าจาก 32.81 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ราว 31.60 บาท/ดอลลาร์ แต่หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนคาดกำไรสุทธิจะลดลง เนื่องจากปีก่อนฐานกำไรสูงและจะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานจากกฎหมายแรงงาน ใหม่ที่ 111 ล้านบาท โดยการฟื้นตัวจะเห็นชัดในช่วงถัดไปตามความต้องการที่กลับมาโดยเฉพาะครึ่งปีหลังที่ปีก่อนนักท่องเที่ยวจีนหดตัวลง
ด้าน บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในปี 62 กำไรสุทธิของ AAV จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง โดยประเมินไว้ที่ 716 ล้านบาท จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และนักท่องเที่ยวที่ยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้ประเมินรายได้จะยังเติบโตได้ดีมาอยู่ที่ 4.34 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 12% จากปีก่อน เป็นไปตามนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA และราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่ง AAV มีสัญญาซื้อล่วงหน้าในสัดส่วนถึง 50% ของปริมาณการใช้ทั้งปีแล้ว รวมถึงยังได้รับอานิงสงส์จากอัตราค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นด้วย
สำหรับการเปิดเส้นทางใหม่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องโดยตลาดประเทศในกลุ่ม CLMV และอินเดีย จะเป็นเส้นทางที่ AAV ให้ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากต้องการให้จำนวนผู้โดยสารในสองกลุ่มดังกล่าวมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเพื่อลดการพึ่งพิงตลาดลูกค้าจากประเทศจีน โดยปัจจุบัน AAV มีสัดส่วนลูกค้าจากจีน CLMV และอินเดีย อยู่ที่ 30%,10%,5% ตามลำดับ และวางเป้าในอนาคตจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 20%, 15% และ 10% ตามลำดับ