เปิด 5 ธีมรับมือตลาดผันผวนก่อนเลือกตั้ง ชูหุ้นปัจจัยหนุนแกร่ง-แนวโน้มผลงานโต

เปิด 5 ธีมรับมือตลาดผันผวนก่อนเลือกตั้ง ชูหุ้นปัจจัยหนุนแกร่ง-แนวโน้มผลงานโต


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงทั้งจากเม็ดเงินต่างชาติ อีกทั้งการชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าจากสถิติตลาดหุ้นไทยก่อนการเลือกตั้ง 1-2 วันจะมีการปรับตัวขึ้น และอาจจะมีการย่อตัวภายหลังจากมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้น

โดย บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าการฟื้นตัวตลาดหุ้นไทย น่าจะเป็นเพราะตลาดหุ้นไทย Laggards ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เพราะความกังวลการเมืองก่อน-หลังเลือกตั้ง แต่จากสถิติ 4 ครั้งที่มีการเลือกตั้งในอดีต ระบุว่าตลาดหุ้นจะตอบรับด้านบวกก่อนและหลังเลือกตั้ง 1-2 วัน และมีโอกาสย่อตัวต่อ โดยเชื่อว่ายังแรงหนุนรายหุ้นที่กำไรเด่นไตรมาส 1/2562 (SCC, SCCC, BCH, PTTGC, TOP, IRPC) หรือ Turnaround (SAPPE, STPI, TTCL) Top picks เลือก STPI([email protected]) และ PTTEP(FV@B168) ราคาหุ้น Laggard สวนทางราคาน้ำมันที่ยืนเหนือสมมติฐานที่กำหนดไว้ 65 เหรียญฯต่อบาร์เรล

กลยุทธ์การลงทุนภายใต้ตลาดผันผวน เน้น 5 themes 

นับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. ตลาดให้น้ำหนักกับการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะเสถียรภาพรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร กดดัน SET Index แกว่งตัวลงลง  ต่ำกว่า 1620 จุด อีกครั้งหลัง  กลยุทธ์การลงทุนแนะนำเลือกเป็นรายหุ้นใน  5 Theme คือ

1.หุ้นที่มีผันผวนน้อยกว่าตลาด (1L2H) โดย 1L คือ Low Beta คือ หุ้นที่ผันผวนต่ำน้อยกว่าตลาด  และครึ่งปีหลังคือ High Upside และ High Growth ปี 2562

2.หุ้น Domestic Play

กลุ่มรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มนิคมฯ ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน: STEC ([email protected]), SEAFCO (FV@ ก่อน XD 12.40 บาท หลัง XD 11.30 บาท), SCCC (FV@B269), AMATA ([email protected]), WHA ([email protected])

กลุ่มธ.พ. จากการขยายตัวของสินเชื่อ: BBL (FV@B227), KBANK (FV@B246)

กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของพรรคการเมือง ที่มุ่งเน้นผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกร: BJC (FV@B61), M (FV@B84),  SAWAD (FV@B54), MTC([email protected]), JMT ([email protected])

3.หุ้นที่มีผลกำไรโดดเด่นในไตรมาส 1/2562 และมี upside มากกว่า 10%: กลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ PTT(FV@B56), PTTGC(FV@B79) หุ้นโรงไฟฟ้า-พลังงานทดแทน BPP([email protected]) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC(FV@B269), TPIPL([email protected]) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS(FV@B30), BCH(FV@B21) กลุ่มเกษตร-อาหาร CPF(FV @B31.50), TFG(FV @B4.50) ปิดท้ายด้วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ PSH ([email protected]), QH ([email protected]) และ CPN ([email protected])

4.หุ้น Turnaround ในปี 2562

5.หุ้น Global ที่อิงตามราคาน้ำมันดิบโลก: ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากจุดต่ำสุด (ปลาย ธ.ค 61) สอดรับกับการลด supply ตามความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาหุ้น PTT PTTEP PTTGC ยังไม่ได้ตอบรับปัจจัยบวกเท่าที่ควร มิหน่ำซ้ำยังมีแรงชอร์ตเซล (Short Sale เป็นการขายหลักทรัพย์ที่ไม่มีในครอบครอง โดยเป็นการยืมหุ้นมาเพื่อขาย แต่ในที่สุดต้องซื้อหุ้นกลับเมื่อราคาต่ำ เพื่อคืนแก่ผู้ให้ยืม) ออกมาต่อเนื่อง (นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน) จึงเชื่อว่าหากราคาหุ้นปรับฐานลงจนมี Upside เปิดกว้าง และด้วยพื้นฐานแข็งแกร่งจึงมีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นจะฟื้นกลับมาจากการ Cover Short

Back to top button