เปิดหุ้นท่องเที่ยวตัวท็อปราคา Laggard พร้อมเด้งรับททท.ยืดเวลายกเว้น VOA
ชูหุ้นท่องเที่ยว-โรงแรมตัวท็อปราคา Laggard พร้อมเด้งรับททท.ยืดเวลายกเว้น VOA
“ข่าวหุ้นธุริจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจรวบรวมบทวิเคราะห์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกกับการท่องเที่ยว และโรงแรม เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ราคายังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด ขณะที่มีปัจจัยบวกเรื่องการขยายมาตรการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ที่จะส่งผลดีต่อรายได้ของกลุ่มดังกล่าวหลังจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 13-15 เม.ย.นี้
โดย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่า การที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายมาตรการยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ไปอีก 6 เดือน จากปัจจุบันจะสิ้นสุด 30 เม.ย. 62 เป็นสิ้นสุด 31 ต.ค. 62 นั้น
ทั้งนี้ หากมีการขยายการยกเว้น VOA ออกไปจะเป็นข่าวดีกับกลุ่มท่องเที่ยว เพราะมาตรการนี้ช่วยดึงนักท่องเที่ยวกลับมาได้อย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งจะช่วยให้การท่องเที่ยวในไตรมาส 2-3 ซึ่งเป็น Low season มีความคึกคักขึ้น สำหรับธุรกิจและหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดี คือ สนามบิน (AOT ให้ราคาพื้นฐาน 75 บาท), โรงแรม (ที่เด่นสุด คือ ERW ให้ราคาพื้นฐาน 9.00 บาท ทั้งนี้เพราะเน้นโรงแรมในประเทศ และมีโรงแรมที่คลอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อัตราการเข้าพัก Hop Inn ที่มี EBITDA margin ดีสูงต่อเนื่อง)
ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี CGS-CIMB Tactical portfolio : เราแนะนำ ให้ใช้กลยุทธ์ sector rotation โดยการ ขาย/short หุ้นกลุ่มสื่อนอกบ้าน (out of home media :OOH) อย่าง VGI PLANB มา ซื้อ/Long หุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว จากการที่หุ้นกลุ่มสื่อนอกบ้านปรับตัวขึ้นมาสะท้อนข่าวความร่วมมือระหว่าง VGI และ PLANB ไปมากแล้ว (ปัจจุบันราคาเข้าเขต overbought) โดย VGI ปรับตัวขึ้น 18% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน และ PLANB ปรับตัวขึ้น 14% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวยังปรับตัวขึ้นช้ากว่า โดย AOT ปรับตัวขึ้น 4.6%, CENTEL ปรับตัวขึ้น 8.7%, ERW ปรับตัวขึ้น 11%, MINT ปรับตัวขึ้น11%
โดยเป็นผลมาจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงในเดือนก.พ. แต่เชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งทอท. คาดจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 11-17 เม.ย. จะเพิ่มขึ้นกว่า 12.3% yoy ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวได้ในช่วงนี้ เราให้ราคาเป้าหมาย AOT, CENTEL, ERW และ MINT ที่ 80.00, 54.00, 8.20 และ 40.25 บาทตามลำดับ
ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ “Outperform” AOT ราคาเป้าหมาย 82.12 บาท/หุ้น มองว่ากำไรสุทธิของ AOT ในไตรมาส 2/2562 จะอยู่ที่ 7.77 พันล้านบาท (เติบโต 6.8% จากปีก่อน, เติบโต 21.8% จากไตรมาสก่อน) คิดเป็น 28.2% ของประมาณการกำไรปี 62
โดยจะได้แรงหนุนจากฤดูท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน AOT ตัดสินใจแบ่งการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และอีกสามสนามบินในต่างจังหวัดเป็นสองสัญญาเพื่อยุติความกังวลเรื่องการผูกขาดหลังจากที่นโยบายการเปิดสัมปทานรายเดียวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งนี้ยังคงคาดว่า AOT จะได้อานิสงส์จากส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยยังคงราคาเป้าหมาย DCF ที่ 82.12 บาท