PTT กำไรไตรมาส 1 ฉายแววโตแจ่ม รับราคาน้ำมันพุ่ง โบรกฯชูหุ้น “Defensive”
PTT กำไรไตรมาส 1 ฉายแววโตแจ่ม รับราคาน้ำมันพุ่ง ไร้สต๊อกลอส โบรกฯชูหุ้น "Defensive" จ่อรับผลดีส่ง "PTTOR" เข้าตลาด-ดัชนี MSCI เตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำกราสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT หลังราคาหุ้นวานนี้ (22 เม.ย.) ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 49.25 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.20 พันล้านบาท ตอบรับสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมประกาศยกเลิกคำสั่งยกเว้นให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน พร้อมกับเตือนว่า หากประเทศเหล่านี้ยังนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน สหรัฐก็จำเป็นต้องคว่ำบาตรประเทศกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกต่อ PTT
นอกจากนี้ PTT ยังเป็นหุ้น Defensive และยังมีประเด็นบวกจากแผนการนำ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR เข้าตลาดหุ้น แม้อาจจะยังมีความล่าช้าอยู่บ้างก็ตาม รวมถึงคาดว่า MSCI จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น PTT หลังปรับเกณฑ์การคำนวณใหม่ที่คาดว่าจะประกาศใช้กลางเดือน พ.ค. และมีผลบังคับใช้ปลายเดือน พ.ค. ซึ่งทำให้หุ้น PTT มีความน่าสนใจการลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นในรอบเดือนที่ผ่านมาไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก
โดย นักวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หากสหรัฐฯ ไม่ขยายเวลาผ่อนผันคว่ำบาตรอิหร่าน บวกต่อน้ำมัน มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านจะครบกำหนด 2 พ.ค. ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะไม่ขยายระยะเวลาผ่อนผันที่ให้กับบางประเทศ ซึ่งจะบวกต่อแรงเก็งกำไรน้ำมันก่อนครบกำหนดผ่อนผัน เป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นพลังงาน ได้แก่ PTT
ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTT ประเมินราคาเป้าหมายที่ 56 บาทต่อหุ้น มองแนวโน้มกำไรสุทธิของ PTT ในไตรมาส 1/62 จะพลิกกลับมาเติบโตจากไตรมาส 4/61 จากคาดการณ์ว่าจะไม่มีการบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมันในระดับสูงเช่นที่เกิดขึ้นในไตรมาสก่อน แต่ในส่วนของกำไรปกติอาจจะปรับตัวลดลง จากแรงกดดันของผลการดำเนินงาน PTTEP ที่คาดปริมาณขายจะลดลงเพราะตามปกติช่วงต้นปี PTT จะเรียกรับก๊าซฯในอ่าวไทยลดลง
รวมถึงมีการหยุดผลิตของแหล่งบงกชใต้นานกว่า 1 เดือน ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นยังถูกกดดันจากค่าการกลั่นที่ลดลงจากภาวะ Oversupply ของน้ำมันสำเร็จรูป แต่คาดว่าค่าการกลั่นมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.และเม.ย.เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลหยุดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งทั่วโลก ขณะที่สเปรดปิโตรเคมียังทรงตัวในระดับต่ำ
ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทิวเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTT ประเมินราคาเป้าหมายที่ 55.50 บาทต่อหุ้น โดยแนวโน้มกำไรสุทธิของ PTT ในไตรมาส 1/62 ดีขึ้นจากไตรมาส 4/61 หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมากจากสิ้นปี 61 จะทำให้ PTT ไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกเหมือนไตรมาสก่อน
รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทลูกในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ดีขึ้นจากที่ไม่มีผลขาดทุนสต็อกเข้ามาชดเชยมาร์จิ้นของธุรกิจที่อ่อนตัวลง ส่วนผลการดำเนินงานของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จะได้รับผลบวกบางส่วนจากราคาขายปิโตรเลียมที่อิงกับราคาน้ำมัน ขณะที่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่เป็นก๊าซธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานปกติของ PTT ยังคงอ่อนแอในครึ่งแรกปีนี้ที่ได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่น (GRM) อ่อนตัวหลังมีภาวะ Oversupply ของน้ำมันเบนซินในตลาดโลก แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะดีขึ้น จากการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% จาก 3.5% ในปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 คาดว่าจะทำให้เกิดอุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลเพื่อมาผสมในน้ำมันเตาเพื่อลดค่ากำมะถัน หรือการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อทดแทนมากขึ้น กรณีดังกล่าวก็จะทำให้สเปรดดีเซลสูงขึ้นจากระดับปกติอยู่ที่ 15-20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจโรงกลั่นของกลุ่ม PTT ที่ส่วนใหญ่ผลิตน้ำมันดีเซลได้ในสัดส่วนที่มาก ก็จะผลักดันให้ GRM รวมปรับตัวดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ประเมินว่ากำไรปกติของ PTT ในปีนี้จะเติบโต 8.6% จากปีก่อน หลังมาร์จิ้นธุรกิจน้ำมันจะดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่จะมีเสถียรภาพมากกว่าปีที่แล้วที่ราคาน้ำมันมีความหวือหวา จนกระทบต่อการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันส่งผลให้มาร์จิ้นต่ำ ขณะที่ยังมีปัจจัยหนุนจากการขยายในส่วนธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นดี นอกจากนี้คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มาร์จิ้นธุรกิจก๊าซฯก็น่าจะดีขึ้นด้วย เนื่องจากการซื้อก๊าซฯจาก PTTEP น่าจะถูกลง ตามสูตรราคาซื้อขายก๊าซฯที่อิงกับราคาน้ำมันเตาที่คาดว่าจะมีราคาลดลงรับผลจากเกณฑ์ใหม่ของ IMO
อย่างไรก็ตามในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น PTT ไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากยังไม่มีความน่าสนใจอย่างเด่นชัดเมื่อเทียบกับบริษัทลูกอย่าง PTTEP ที่ได้ประโยชน์มากกว่าจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแล้วราว 40% ในปีนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีก็ยังไม่สดใสจากมาร์จิ้นที่ยังอ่อนแอ แต่คาดว่าหลังจากนี้ตลาดอาจจะหันมาให้ความสนใจหุ้น PTT เพิ่มขึ้นจากการที่เป็นหุ้น Defensive รวมถึงยังมีประเด็นบวกจากแผนการนำ PTTOR เข้าตลาดหุ้น แม้อาจจะยังมีความล่าช้าอยู่บ้าง
นอกจากนี้การประกาศปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของการคำนวณดัชนี MSCI คาดว่าจะทำให้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น PTT จาก 0.3% เป็น 0.4% ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศในช่วงกลางเดือน พ.ค. และมีผลบังคับใช้ในปลายเดือน พ.ค. ก็อาจจะทำให้มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในหุ้น PTT มากขึ้น
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้น PTT ประเมินราคาเป้าหมาย 55 บาทต่อหุ้น คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/62 คาดปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากการฟื้นตัวของผลประกอบการของกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี จากขาดทุนสต๊อกพลิกเป็นกำไร
นอกจากนี้ธุรกิจหลักของ PTT ยังได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันผ่าน margin ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการจัดหาก๊าซฯ ให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ในขณะที่ราคาหุ้น Laggard กลุ่มพลังงานอยู่ประมาณ 5%