โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” CK ชูท็อปพีค “กลุ่มรับเหมา” รับอานิสงส์รัฐบาลใหม่ หนุนคว้างานต่อเนื่อง
โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" CK ชูท็อปพีค “กลุ่มรับเหมา” รับอานิสงส์รัฐบาลใหม่ หนุนคว้างานต่อเนื่อง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK หลังราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อ CK ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชัดเจน เนื่องจากจะมีการต่อเนื่องของงานประมูล พร้อมคาดว่าในช่วงปี 2562-63 จะเป็นช่วงที่มีงานประมูลมากที่สุด
โดยนักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน มีมุมมองเชิงบวกต่อผลการเลือกนายกรัฐมนตรี จากคาดมีแนวโน้มมีความต่อเนื่องของงานประมูล และคาดในช่วง 62-63 จะกลายเป็นช่วงที่มีการประมูลออกมามากที่สุด มีแนวโน้มสูงกว่าเราคาดเดิม และเป็นบวกโดยตรงต่อกลุ่มรับเหมาฯงานรัฐ ส่วนประเด็นลบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เรามองผลกระทบไม่ได้มีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ คงมุมมอง BULLISH กลุ่มรับเหมาฯ และเลือกหุ้น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท.ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เป็น top pick (เดิม STEC เป็น top pick) จากทิศทางงานประมูลที่ดีขึ้น นอกจากผู้ที่มี backlog secure การเติบโตของรายได้และกำไรในช่วง 62-63 และระยะยาวเป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์งานรัฐจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ที่ปลอดภัย
พร้อมกันนี้ มองผู้ที่มี backlog ฐานต่ำและมีโอกาสชนะงานรัฐสูง ซึ่งจะทำให้การเติบโตเด่น จะเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำ “ซื้อ” CK ราคาเป้าหมาย 37.00 บาท “ซื้อ” STEC ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ ระบุว่า มอง Positive ต่อการที่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และเป็น พล.อ. ประยุทธ์ จากคาดงานประมูลรัฐต่อเนื่องและมีแนวโน้มเหนือกว่าคาดเดิม โดยแม้ตำแหน่งรัฐมนตรียังไม่ชัดเจน แต่ด้วยผู้นำเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีแนวโน้มจะพิสูจน์การดำเนินนโยบายได้ต่อเนื่อง จึงคาดมีแนวโน้มสูงที่งานประมูลรัฐระหว่างเจรจา/ประมูล
อาทิ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน EEC (รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, สนามบินอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลมฉบัง 3 และท่าเรือมาบตาพุด 3) รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนองจะมีความต่อเนื่อง
รวมถึงอาจเห็นการเปิดประมูลโครงการรัฐใหม่อย่างรถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ในช่วง 62-63 อาจมีงานประมูลรัฐได้สูงถึงราว 500,000 ล้านบาท (Vs. คาดปัจจุบันราว 332,436 ล้านบาท) และส่งผลให้มีโครงการที่มีโอกาสลงนามฯ ในช่วงเดียวกันได้ราว 807,626 ล้านบาท (Vs. เราคาดปัจจุบัน 539,884 ล้านบาท)
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการ รวมถึงปรับ PBV target เพื่อสะท้อนแนวโน้มงานประมูลรัฐที่อาจดีกว่าคาด ทั้งนี้เลือก CK ขึ้นมาเป็น top pick คู่กับ STEC จากแนวโน้มงานประมูลรัฐที่ดีกว่าคาด เป็นประโยชน์โดยตรงกับ CK ที่เป็นผู้มีแนวโน้มได้งานรัฐสูง