ได้เวลาสอย SAWAD ขานรับปัจจัยบวก 2 เด้ง! กำไรปี 62 “นิวไฮ”-ลุ้นเข้าคำนวณ SET50

ได้เวลาสอย SAWAD ขานรับปัจจัยบวก 2 เด้ง! กำไรปี 62 “นิวไฮ”-ลุ้นเข้าคำนวณ SET50


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD หลังมีนักวิเคราะห์หลายแห่งกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” และจัดเป็นหุ้น Growth Stock เล็งกำไรปีนี้ทำ New High จากการขยายตัวสินเชื่อที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นตามฐานเงินทุนของบง.ศรีสวัสดิ์ (BFIT) ที่สูงขึ้น และเพิ่มจำนวนสาขาปี 62 มาอยู่ที่ 3,286 แห่ง คาดกำไรสุทธิ 3.6-3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และสินเชื่อจะเติบโต 20-30% จากปี 61

นอกจากนี้ ในช่วงสั้น SAWAD มีลุ้นที่จะเข้าไปคำนวณดัชนี SET50 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯน่าจะประกาศในช่วงกลางเดือนมิ.ย. พร้อมติดตามหลังการเพิ่มทุน RO ใน BFIT คาดว่าสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นของ SAWAD ทุก ๆ 5% จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิ และ EPS เพิ่มขึ้น 0.9%

ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/62 คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อาจทรงตัวจากไตรมาสก่อน แม้ว่า SAWAD จะบันทึกสำรองผลประโยชน์พนักงานจำนวน 6-8 ล้านบาทในไตรมาสดังกล่าว แต่มองว่าไม่มีนัยสำคัญ โดยกำไรสุทธิที่คาดทรงตัวโดยหลักเป็นผลจากช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากมีวันหยุดยาวค่อนข้างมากส่งผลต่อการขยายสินเชื่อและสาขา ส่วนกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น จากงวดปีก่อนได้รับปัจจัยหนุนจากขนาดพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตขึ้น และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลง

ด้านนายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ SAWAD ในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีลุ้นที่กำไรสุทธิจะทำ New High จากการขยายตัวของสินเชื่อ คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 3.6 พันล้านบาท เติบโตราว 29.6% จากปีก่อน ขณะที่สินเชื่อน่าจะเติบโต 30% จากปี 61 ที่สินเชื่อเติบโต 29% ดังนั้น SAWAD จึงจัดได้ว่าเป็นหุ้น Growth Stock ตัวหนึ่ง

นอกจากนี้ ในช่วงสั้น SAWAD มีลุ้นที่จะเข้าไปคำนวณในดัชนี SET50 ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะประกาศในช่วงกลางเดือนมิ.ย. ส่วนประเด็นทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงคงจะยังไม่เกิดขึ้นเร็ว แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ยังต้องรอดูผลการเพิ่มทุนของ BFIT ว่าจะเป็นอย่างไรด้วย

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนสำหรับ SAWAD เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” สะท้อนการขยายตัวของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในปี 61-63 โดยประเมินกำไรสุทธิเฉลี่ยช่วง 3 ปีนี้ เติบโตปีละ 31% จากเดิมเติบโตปีละ 23% เป็นผลจากการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 62-63 เพิ่มขึ้นปีละ 10-13% ตามอัตราการขยายตัวของสินเชื่อ และ Loan Yield ที่เพิ่มขึ้นจากฐานเงินทุนของ BFIT ที่สูงขึ้น หลังการเพิ่มทุนขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม : 1.5 หุ้นใหม่ที่ราคาหุ้นละ 18 บาท ทั้งนี้ ประมาณการข้างต้นอิงสมมติฐานที่ว่า BFIT จะได้รับเงินเพิ่มทุน RO 100% และสัดส่วนการถือหุ้นของ SAWAD ยังอยู่ที่ 45.34%

อย่างไรก็ตามเชื่อว่า SAWAD จะมีสัดส่วนการถือหุ้นที่สูงกว่านี้ จากอัตราการเพิ่มทุนที่ไม่มีความน่าสนใจต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย และคาดว่าสัดส่วนการถือหุ้น BFIT ที่เพิ่มขึ้นของ SAWAD ทุก ๆ 5% จะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิและกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น 0.9% คิดเป็นราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 0.14 บาท ขณะที่กรณีที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่เพิ่มทุน และมีเพียง SAWAD ที่เพิ่มทุนเกินสิทธิ จะส่งผลให้ SAWAD มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 78.13% รวมทั้งกำไรสุทธิและ EPS เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ 5.8% และราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 0.92 บาท

ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิของ SAWAD ในปี 62-63 เพิ่มขึ้นมาที่ 3.8 และ 4.8 พันล้านบาทตามลำดับ โดยเพิ่มขึ้น 38% และ 24% เมื่อเทียบปีต่อปี จากการเพิ่มอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปี 62-63 ที่ 20-23% จากเดิมปีละ 18% สะท้อนโอกาสในการขยายสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นตามฐานเงินทุนของ BFIT ที่สูงขึ้น, เพิ่มจำนวนสาขาปีนี้อยู่ที่ 3,286 แห่งจากเดิม 3,170 แห่ง โดยมองว่า SAWAD จะยังขยายสาขาในช่วงไตรมาส 2-4/62 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/62 ที่อยู่ 3,086 แห่ง และเพิ่ม Loan Yield ปี 62-63 ที่ 22.5% จากเดิม 21.5% ตามสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อผ่าน BFIT ที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูง

ขณะที่ยังคงประมาณการ Coverage Ratio ที่ต่ำประมาณ 81% ซึ่งเชื่อว่าเพียงพอต่อ TFRS9 จากนโยบายการปล่อยสินเชื่อที่ LTV ต่ำเพียง 30-50% ส่งผลให้ SAWAD มีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองเพียง 128 bps

สำหรับราคาหุ้น SAWAD ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดในช่วง 1-3 เดือนนั้นเกิดจากการเพิ่มทุนใน BFIT ที่ช่วยหนุนให้สินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น, โอกาสในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน BFIT และแนวโน้มการเข้าคำนวณ SET50

ด้านบล.เอเชีย เวลท์ คาดกำไรสุทธิปี 62 ของ SAWAD จะกลับมาเติบโตสูงถึง 33.9% จากปี 61 ที่เติบโต 3.8% อานิสงส์จากการปรับโครงสร้างธุรกิจที่เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/62 ทรงตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดปีก่อน แม้ว่า SAWAD จะมีการบันทึกสำรองผลประโยชน์พนักงานจำนวน 6-8 ล้านบาท แต่มองว่าไม่มีนัยสำคัญ

โดยกำไรสุทธิที่คาดทรงตัวจากไตรมาสก่อน เป็นผลจากช่วงโลว์ซีซั่น เนื่องจากมีวันหยุดยาวมากทำให้ส่งผลต่อการขยายสินเชื่อและสาขา ส่วนกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน หนุนโดยขนาดพอร์ตสินเชื่อที่โตกว่าปีก่อน และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลง

Back to top button