โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” BBL ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง-อานิสงส์ประมูลงานรัฐหนุนยอดสินเชื่อโต

โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" BBL ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังโตแกร่ง-อานิสงส์ประมูลงานรัฐหนุนยอดสินเชื่อโต


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หลังมีนักวิเคราะห์หลายแห่งกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL จากแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นของสินเชื่อในครึ่งหลังของปีนี้ รับปัจจัยหนุนของโครงการลงทุนภาครัฐที่จะทยอยออกมาหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนแล้ว ทำให้ความต้องการใช้สินเชื่อมีโอกาสเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่ง BBL จะได้รับอานิสงส์ดังกล่าวไปด้วย

ขณะเดียวกันแนวโน้มของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ยังมีการปรับเพิ่มขึ้น จากผลตอบแทนของสินเชื่อขยับเพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินลดลง นอกจากนี้ราคาหุ้น BBL ที่ Laggard ก็มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น หากมีความชัดเจนของการผลักดันการเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ใหม่ ๆ ของภาครัฐออกมาในช่วงครึ่งปีหลัง และ BBL ก็ถือเป็นหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (dividend yield) ที่สูงถึง 4% ทำให้ยังน่าสนใจการลงทุน

ด้านนางสาวอุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า BBL จะได้รับอานิสงส์อย่างมากจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ ที่เตรียมจะออกมาหลังจากการมีรัฐบาลชุดใหม่ จะช่วยหนุนต่อสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารให้เติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะมีงานโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐออกมา จากช่วงครึ่งปีแรกที่แนวโน้มชะลอตัวอยู่

นอกจากนี้ความน่าสนใจของ BBL ยังมาจากราคาหุ้นที่ Laggard เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ BBL ถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีโอกาสได้อานิสงส์จากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาด้วย ขณะที่ยังเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 4% ทำให้มองว่าเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจลงทุนตัวหนึ่ง

ขณะที่ นางสาวสุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า BBL จะเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี หลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ ก็คาดว่าจะมีการทยอยเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐออกมา จะทำให้เห็นการเติบโตของสินเชื่อลูกค้าขนาดใหญ่อย่างโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงจากแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการส่งออกได้บ้าง

อีกทั้ง ธนาคารยังคงมีการบริหารจัดการ NIM ได้ดี ซึ่งอยู่ในช่วง 2.38-2.4% สูงขึ้นจากปีก่อนที่ 2.3% จากแนวโน้มของผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อปรับตัวเพิ่มขึ้น และต้นทุนทางการเงินลด ซึ่งในส่วนของกำไรของ BBL ในปีนี้ยังคาดการณ์ไว้เติบโต 8.7% จากปีก่อน ส่วนความน่าสนใจของ BBL ในช่วงนี้มองว่ามีโอกาสที่ได้รับประโยชน์จากกระแสเงินทุนไหลเข้า ซึ่งอาจจะช่วยหนุนต่อราคาหุ้นให้กลับมาฟื้นตัวจากที่ราคาหุ้นของ BBL ยังคง Laggard และมีการปรับตัวลดลงสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่นับตั้งแต่ต้นปียังเห็นการเพิ่มขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์บล.กรุงศรี กล่าวว่า จากความต้องการสินเชื่อที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่จะมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐออกมา ทำให้ธนาคารจะได้รับอานิสงส์ดังกล่าวไปด้วย เพราะเป็นเป็นธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์จากกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่มากที่สุด และจะช่วยหนุนให้สินเชื่อรวมของธนาคารสามารถเติบโตได้คามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4-6%

ขณะเดียวกัน NIM ของธนาคารยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วง 2.35-2.40% จากสิ้นปีก่อนที่ 2.33% จากผลตอบแทนของสินเชื่อที่มีการปรับตัวขึ้น และต้นทุนการเงินลดลงจากเงินฝากที่มีการกระจายตัวไปที่เงินฝากที่ให้อัตราดอกเบี้ยไม่สูงมาก โดยเฉพาะเงินฝากของกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และในด้านราคาหุ้นของ BBL ในปัจจุบันถือว่ายังมีความน่าสนใจ เพราะราคาปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมาก และยังไม่ฟื้นตัวขึ้นที่โดดเด่น ซึ่งคาดว่าจะในครึ่งปีหลังหากปัจจัยหนุนของโครงการลงทุนภาครัฐออกมาชัดเจน มีโอกาสผลักดันราคาหุ้นของ BBL ต่อไปได้

Back to top button