4 โบรกฯแนะ “ซื้อ” HMPRO ชี้ผลงานครึ่งปีหลังพีค รับไฮซีซั่น-แผนกระตุ้นศก.รัฐ-ลุยขยายสาขา
4 โบรกฯแนะ "ซื้อ" HMPRO ชี้ผลงานครึ่งปีหลังพีค รับไฮซีซั่น-แผนกระตุ้นศก.รัฐ-ลุยขยายสาขา
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO หลังนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังปีนี้ว่าน่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกจากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และแผนการขยายสาขาทั้ง HMPRO, HMPRO S และ Megahome ขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะเพิ่มขึ้น ตามแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่น่าจะออกมาในช่วงครึ่งหลังปีนี้ด้วย
โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของ HMPRO ช่วงครึ่งหลังปีนี้น่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่, การจัดงาน HomePro Expo
รวมถึงการขยายสาขา HMPRO, HMPRO S, Megahome และในช่วงปลายปีนี้จะเข้าสู่ช่วงของไฮซีซั่น โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้ที่ 6.35 พันล้านบาท เติบโต 13% จากปีก่อน ซึ่งกำไรสุทธิครึ่งปีแรกคิดเป็น 47% ของทั้งปี และคาดว่าปีนี้ SSSG จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3%
“หลักๆ ยังคงมาจากการได้รับการสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐที่น่าจะมีออกมาในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งก็ต้องติดตามดูต่อไป บวกกับปลายปีนี้จะเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจที่น่าจะเห็นการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้ครึ่งปีหลังนี้น่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก และทั้งปียอดขายก็น่าจะเติบโตได้ตามคาดการณ์” นักวิเคราะห์ กล่าว
ด้านนางสาวสุธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการของ HMPRO ในไตรมาส 3/62 จะเติบโตกว่าไตรมาส 2/62 และช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าไตรมาส 4/62 จะทำกำไรสุทธิสูงสุดใหม่ จาก SSSG ที่เติบโตต่อเนื่อง และการขยายสาขาทั้ง HMPRO, HMPRO S และ Megahome ในครึ่งปีหลังนี้ อีกทั้งการเพิ่มสัดส่วนสินค้า Private brand น่าจะช่วยให้อัตรากำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยทั้งปีนี้ยังคงคาดกำไรสุทธิจะเติบโต 12% จากปีที่แล้ว
อนึ่งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/62 ของ HMPRO มีกำไรสุทธิที่ระดับ 1.53 พันล้านบาท โต 16.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 1.31 พันล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 2.95 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 2.56 พันล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากการขาย รวมถึงรายได้จากค่าเช่าและบริการ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน