เผย 5 หุ้น mai พารวยฟาดกำไร 11 ปีต่อเนื่อง
เปิดชื่อ 5 หุ้นกำไรต่อเนื่อง 11 ปีซ้อน ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจจะมีอาการเมาหมัดให้เห็นเป็นประจำ บอกได้เลยว่าหุ้นเหล่านี้ยังคงทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่งทนต่อแรงเสียดทานรอบด้าน เรียกได้ว่าถึงช่วงประกาศงบฯ ประจำปีทีไรมีกำไรให้นักลงทุนได้ชื่นใจกันถ้วนหน้า
เปิดชื่อ 5 หุ้นกำไรต่อเนื่อง 11 ปีซ้อน ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจจะมีอาการเมาหมัดให้เห็นเป็นประจำ บอกได้เลยว่าหุ้นเหล่านี้ยังคงทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่งทนต่อแรงเสียดทานรอบด้าน เรียกได้ว่าถึงช่วงประกาศงบฯ ประจำปีทีไรมีกำไรให้นักลงทุนได้ชื่นใจกันถ้วนหน้า
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากหุ้นที่มีกำไรต่อเนื่องติดต่อกัน 11 ปี นับตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปี 2557 อ้างอิงข้อมูลจากงบการเงินที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งจะพบว่ามีหุ้นเข้าข่ายเกณฑ์ที่ใช้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 5บริษัทหลักทรัพย์โดยหุ้นเหล่านี้ถือเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานมั่นคง และเหมาะกับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
โดยหุ้นตัวแรกคือ บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ซึ่งดูเหมือนธุรกิจผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์จะไปได้สวยไตรมาสล่าสุดจึงสามารถทำกำไรได้ตามที่นักลงทุนคาดหวังไว้ โดยกำไรไตรมาส 1 ปี 58 อยู่ที่ 15.01 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้น BOL วานนี้ (14 ก.ค.) อยู่ที่ 1.99 บาท ปรับตัวลง 0.03 บาท หรือ 1.49% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.19 ล้านบาท
หุ้นตัวที่ 2 บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ที่กำไรปีล่าสุด (2557) อยู่ที่ 218.94 ล้านบาทซึ่งนับว่าเป็นปีที่มีกำไรมากที่สุดในรอบ 11 ปีอีกทั้งกำไรไตรมาส 1 ปี 58 สิ้นสุด 31 มี.ค.58 เติบโตถึง118% มาที่ 110.82 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 50.79 ล้านบาท
ล่าสุดบริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 2,800 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 6-7% เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจขยายตัวได้อย่างดีนับตั้งแต่ต้นปี
ขณะที่ราคาหุ้น ILINK วานนี้ (14 ก.ค.) อยู่ที่ 21.40 บาท ปรับตัวลง 0.20 บาท หรือ 0.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 22.05 ล้านบาท
หุ้นตัวที่ 3 บริษัท พรพรหมเม็ททอล จำกัด (มหาชน) หรือ PPM ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมก่อสร้างซึ่งขณะนี้บริษัทได้หันมาลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกมากขึ้น โดยมองว่าจะเป็นการขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท
ล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อหุ้น บริษัท โซล่า เพาเวอร์ เทคโนโลยีจำนวน80% มูลค่าการลงทุน 31ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต ซื้อขายแผงเซลล์แสงอาทิตย์
ขณะที่ราคาหุ้น PPM วานนี้ (14 ก.ค.) อยู่ที่ 5.60 บาท ปรับตัวลง 0.10 บาท หรือ 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.27 ล้านบาท
หุ้นตัวที่ 4 บริษัท เชอร์วู้ดเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเคมีเคหะภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านเรือน อุตสาหกรรม สาธารณสุขชุมชน และเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรกรรมซึ่งหุ้นตัวนี้เป็นอีกหุ้นที่สามารถทำกำไรในแต่ละปีได้ดีไม่แพ้หุ้นตัวอื่น โดยไตรมาส 1 ปี 58 บริษัทมีกำไร23.46ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้น SWC วานนี้ (14 ก.ค.) อยู่ที่ 8.45 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท หรือ 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.09 ล้านบาท
มาถึงหุ้นตัวสุดท้าย อย่างบริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) หรือ TMW ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต พิมพ์สี พ่นสีและประกอบชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นหุ้นอีกตัวที่สามารถทำกำไรได้อย่างดีเยี่ยม และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในด้านของผลประกอบการ
ขณะที่ราคาหุ้น TMW วานนี้ (13 ก.ค.) ทรงตัวที่ระดับ 27.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.22 ล้านบาท
*ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำ เพื่อทำให้นักลงทุนได้เห็นถึงพื้นฐานของหุ้นเหล่านี้ที่สามารถมีกำไรมาโดยตลอด ซึ่งราคาหุ้นก็จะตอบรับกับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเหล่านี้ด้วย