โบรกฯแนะตุน OSP มองกำไรโตยาว หลังบุกตลาดตปท.ขยายฐานลูกค้าเต็มสูบ

โบรกฯแนะตุน OSP มองกำไรโตยาว หลังบุกตลาดตปท.ขยายฐานลูกค้าเต็มสูบ


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการรวบรวมข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP หลังมีนักวิเคราะห์หลายแห่งมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานบริษัทในระยะยาวทั้งในไทยและต่างประเทศ หลังเดินหน้าขยายตลาดเครื่องดื่มชูกำลังสู่เวียดนาม อีกทั้งยังออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

โดยนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” OSP ประเมินราคาเป้าหมายที่ 40 บาท/หุ้น โดยภายหลังเข้าพูดคุยกับผู้บริหาร OSP ช่วงต้นเดือน ก.ย. ทำให้มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อทิศทางเติบโตบริษัทในระยะยาวทั้งในไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย ธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศยังคงจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ มุ่งเน้น Premiumization โดยผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่จะมีการเพิ่มผลตอบแทน เช่น Shark Zero Sugar เครื่องดื่มสปอร์ตที่เตรียมวางจำหน่าย ส.ค.นี้ เพื่อเจาะตลาดคนออกกำลังกาย

นอกจากนี้ บริษัทจะกลับมาเน้นธุรกิจ Personal Care ที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ปัจจุบัน OSP มีรายได้ Personal Care เพียง 2.4 พันล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้ทั้งหมด และเทียบกับตลาด Personal Care ในไทยที่มีมูลค่าสูงถึง 1.5 แสนล้านบาท โดย OSP ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อขยายสู่ premium segment และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น

รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น Vending machine ซึ่งเป็นหนึ่งในช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีการเติบโตสูงของธุรกิจเครื่องดื่ม รวมถึงแนวทางการลดต้นทุนการผลิต เช่น Fit Fast Firm program ที่จะหันมาเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯเชื่อมั่นว่ากำไรสุทธิ OSP ในช่วงปี 62-64 คาดเติบโตเฉลี่ย 13.5% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม คงประมาณการกำไรปกติปีนี้อยู่ที่ 3,395 ล้านบาท เติบโต 13% เมื่อเทียบจากปีก่อน แม้ว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังมองว่ายังน่าสนใจจากผลประกอบการที่จะคงเติบโตต่อเนื่อง และโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคตอีกมาก

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” OSP ประเมินราคาเป้าหมาย 40 บาท/หุ้น คาดว่า OSP จะได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและและระยะกลางที่รัฐบาลเตรียมออกมา และแนวโน้มการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในประเทศ

ขณะเดียวกันปัจจุบัน “M150” ครองมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งของเครื่องดื่มชูกำลังและมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่คู่แข่งอันดับ 2 และ 3 มีมาร์เก็ตแชร์ลดลง และมีการออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ที่เป็น Niche Market ซึ่งประสบความสำเร็จ เช่น เครื่องดื่มที่ลดน้ำตาลลง เครื่องดื่มชูกำลังผสมโสม ทำให้เจาะตลาดผู้บริโภคระดับกลางได้มากขึ้น

รวมทั้งการเจาะตลาดต่างประเทศประสบความสำเร็จดีมากในเวียดนามและเมียนมาร์ แม้ไม่ประสบความสำเร็จในกัมพูชาก็ตาม และ Personal Care Products เจาะตลาดได้ดีใน Online Market

Back to top button