ดักเก็บ BAY ก่อนปักป้าย XD ปันผล 0.40 บ. โบรกฯเคาะเป้า 45 บ.

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY หลังบริษัทประกาศจ่ายปันผลจากกำไรสะสม เป็นอัตราเงินสด 0.40 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 ก.ย.2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 ก.ย.2562

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 45 บาท/หุ้น โดยยังเชื่อมั่นในการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อทั้งปี 2562 แต่คาดกำไรสุทธิอาจถูกกดดันบางส่วนจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ส่งให้ NIM ปรับตัวลดลง จึงปรับลดประมาณ EPS ปี 2562 ลงจาก 4.50 บาทต่อหุ้นเป็น 4.42 บาทต่อหุ้น

โดย BAY ยังคงเป้าการเติบโตสินเชื่อ (Loan Growth) ปี 2562 ที่ 6-8% คาดการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อรถยนต์จะเป็นตัวเด่นในครึ่งปีหลัง โดยบริษัทตั้งเป้าสินเชื่อรถยนต์ขยายตัว 10-12% หนุนจากงานแสดงรถยนต์ (Motorshow) ที่จัดประจำในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของกลุ่มการเงิน

อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการจากภาครัฐที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงสัญญาณการขาดสภาพคล่องในลูกหนี้บางราย บริษัทจึงเลือกที่จะเติบโตในบาง Segment เท่านั้น เพื่อคงคุณภาพสินทรัพย์ในระดับต่ำใกล้เคียงกับไตรมาส 2/62 ที่ 1.96% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ปรับตัวดีขึ้นอีก จากเดิมไตรมาส 2/62 อยู่ที่ 168.5% เชื่อว่าในครึ่งปีหลังบริษัทจะผ่อนคลายการตั้งสำรองลงได้

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BAY ราคาเป้าหมาย 44.50 บาท/หุ้น ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ประกอบกับมาตรการควบคุมหนี้ภาคครัวเรือนของ ธปท. ทำให้ทาง BAY มองว่าสินเชื่อในครึ่งปีหลังปี 2562 อาจจะปล่อยได้ยากมากขึ้น ประกอบกับทางธนาคารเองจะมีความระมัดระวังมากขึ้นเพื่อควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ อย่างไรก็ตามยังคงยืนเป้าการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ไว้เหมือนเดิมที่ 6-8% โดยในครึ่งปีแรกปี 2562 BAY มีการเติบโตสินเชื่อที่โดดเด่นกว่าธนาคารอื่น โดยปล่อยได้แล้ว 5.2%

ทั้งนี้ BAY นั้นยังคุม NPL ไว้ได้โดยในไตรมาสล่าสุดก็มี NPL ลดลง แต่เริ่มเห็นสัญญาณของลูกค้าบางรายที่อาจจะมีการขาดสภาพคล่อง เป็นที่มาของนโยบายการระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ยังคงประมาณการกำไรปี 2562 ของ BAY ไว้ที่ 33.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 36.4% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยปีนี้กำไรเพิ่มสูงขึ้นมากเนื่องจากกำไรจากการขายหุ้นเงินติดล้อออกไป

ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” BAY ทั้งนี้มองว่าการการลงทุนภาครัฐจะมีมากในครึ่งปีหลังทำให้ภาพเศรษฐกิจไม่แย่ลง ธนาคารคงเป้าสินเชื่อทั้งปีที่ 6-8% และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะขยายตัวดีตามการเติบโตสินเชื่อ โดยมองว่าธนาคารยังรักษาความสามารถทำกำไรดีตามเปาจากสินเชื่อโตโดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย รวมถึงคุณภาพสินเชื่อดีขึ้น ทำให้การสำรองค่าเผื่อหนี้สูญลดลงจากครึ่งปีแรกได้เป็นอัพไซด์ และการรักษาประสิทธิภาพการทำธุรกิจทำให้ Cost/income ลดลงได้จากครึ่งปีแรก