จังหวะช้อน IRPC หลังราคาสะท้อนปัจจัยลบ ลุ้นผลงานไตรมาส 4/62 ฟื้นรับมาตรการ IMO 2020 หนุน
จังหวะช้อน IRPC หลังราคาสะท้อนปัจจัยลบ ลุ้นผลงานไตรมาส 4/62 ฟื้นรับมาตรการ IMO 2020 หนุน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC หลังวานนี้มีแรงขายออกมาเนื่องจากมีการรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 พลิกขาดทุน 1.32 พันล้านบาท จากการรับรู้ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ 1,333 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ กำหนดคำแนะนำ “Trading BUY” ราคาเป้าหมาย 4 บาท/หุ้น พร้อมมองแนวโน้มผลการดำเนินงานของ IRPC ในช่วงไตรมาส 4/62 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3/62 อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดผลขาดทุนสต๊อกฯลดลง โรงกลั่นไม่มีปิดซ่อมและกลับมาเดินเครื่องราว 200-205 KBD นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากมาตรการ IMO 2020 ช่วยกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันดีเซล ซึ่งโรงกลั่น IRPC มีสัดส่วนการผลิตดีเซลราว 65%
อีกทั้งสามารถผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำ (LSFO) ได้ โดยในช่วงไตรมาส 3/62 เริ่มส่งออกไปแล้ว 1.5 หมื่นตันต่อเดือน และไตรมาส 4/62 มีแผนส่งออกมากขึ้นเป็น 5.5 หมื่นตันต่อเดือน ส่วนราคาขายมีส่วนลดจากน้ำมันดีเซลราว 60-70$/ton ช่วยลดผลกระทบจากราคาน้ำมันเตากำมะถันสูง (HSFO) ที่ราคากำลังตกต่ำ และ Crude Premium ในไตรมาส 4/62 ที่คาดว่าจะสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนราว 1.2$/bbl เนื่องจากค่าระวางเรือ VLCC ในตลาดสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามแนวโน้มส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โดยเฉพาะกลุ่มโอเลฟินส์และสไตรีนิคส์ คาดว่ายังถูกกดดันจากภาวะอุปทานล้นตลาดและอุปสงค์ที่ชะลอตัวจากความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ
ขณะที่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น IRPC ได้ปรับตัวลดลงไปกว่า 27% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และปรับลดลง 3% ในช่วง 1 เดือน สะท้อนคาดการณ์ผลการดำเนินงานที่ขาดทุนไปแล้ว และเชื่อว่าในไตรมาส 4/62 ผลการดำเนินงานของ IRPC จะฟื้นตัวกลับมาเป็นบวกได้
ด้าน บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ ขณะนี้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น IRPC ในราคาเป้าหมาย 5.10 บาท โดยประเมินปัจจัยบวกของ IRPC ในช่วงไตรมาส 4/62 ว่าจะมีการส่งออก Marine Oil (LSFO) ประมาณ 55,0000 ตัน/เดือน จาก 15,0000 ตัน/เดือน ในไตรมาส 3 โดยราคาอ้างอิงกับ Gas Oil ที่ Discount ลง 60-70 ดอลลาร์ต่อตัน
รวมถึงโครงการ Catalyst Cooler จะทำให้รับ Sour Crude ซึ่งราคาถูกกว่า Sweet Crude ได้มากขึ้น โดยเรามองว่าส่วนต่างระหว่าง Heavy/Light จะสูงขึ้นในไตรมาส 4/62